Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดขยับขึ้นเล็กน้อย แรงเทขายหุ้นเทคโนโลยี ฉุดแนสแด็กร่วงกว่า 2%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ (14 มี.ค.) ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ร่วงลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,945.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.05 จุด หรือ 0.003%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,173.11 จุด ลดลง 31.20 จุด หรือ 0.74% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 12,581.22 จุด ลดลง 262.59 จุด หรือ 2.04%

ดาวโจนส์

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (15 มี.ค.) และจะมีการแถลงผลการประชุมในวันพุธที่ 16 มีนาคม ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคมตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2561

ความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย โดยรายงานล่าสุดระบุว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียเมื่อวานนี้ได้เสร็จสิ้นลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ทั้งสองฝ่ายพักการเจรจาชั่วคราว ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ (15 มี.ค.)

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวนในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.89% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงเกือบ 6% เมื่อคืนนี้ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.9% โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 2.10%

อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 1.25%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo