Stock

‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 200 จุด ลุ้นเจรจา ‘ยูเครน-รัสเซีย’ จับตา ‘เจอโรม พาวเวล’ แถลงการเงิน-เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (28 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงกว่า 200 จุด หลังชาติตะวันเพิ่มความรุนแรงในการคว่ำบาตรรัสเซีย ที่บุกโจมตียูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแบนธนาคารายใหญ่ ๆ ของแดนหมีขาว ออกจาก “สวิฟต์” เครือข่ายชำระเงินโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,814.99 จุด ร่วงลง 243.76 จุด หรือ 0.72% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,365.64 จุด ลดลง 19.01 จุด หรือ 0.43% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,727.93 จุด บวก 33.30 จุด หรือ 0.24%

ดาวโจนส์

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 11.34% มาอยู่ที่ระดับ 30.72  ขณะที่หุ้นของกลุ่มบริษัทผลิตอาวุธพุ่งขึ้นสวนทางตลาด ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 834.92 จุด หรือ 2.51% ในวันศุกร์ โดยทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563  ขานรับรายงานข่าวที่ว่ารัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับยูเครน

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาทั้งสัปดาห์ที่แล้ว ดาวโจนส์ปรับตัวลง 0.1% โดยร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 บวก 0.8% และแนสแด็กพุ่งขึ้น 1.1%

นักลงทุนจับตาการเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่าง 2 สองประเทศ โดยการเจรจาได้เริ่มขึ้นแล้วในขณะนี้ที่ภูมิภาคโกเมลของเบลารุส ซึ่งอยู่ที่บริเวณชายแดนเบลารุส และยูเครน ใกล้กับแม่น้ำปรีเปียต

ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนแถลงก่อนหน้านี้ว่า สาระสำคัญในการเจรจาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำข้อตกลงหยุดยิงโดยทันที และการถอนทหารรัสเซียออกจากยูเครน

ดาวโจนส์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจต่อการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อสภาคองเกรสในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธ (2 มี.ค.) เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย

คาดว่าการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไบเดนต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการแถลงนโยบายประจำปีต่อวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเป็นครั้งแรกของเขา จะได้รับความสนใจไปทั่วโลก ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อชาวสหรัฐทั่วประเทศ

นักวิเคราะห์คาดว่า ผู้นำสหรัฐจะเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงความสำเร็จ และผลงานของรัฐบาลสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยเขาจะกล่าวถึงการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ พร้อมกับจะกล่าวถึงสิ่งที่เขาจะดำเนินการต่อไป ในช่วงเวลาที่เหลือของการดำรงตำแหน่งของเขา

นอกจากนี้ ในประเด็นทางการเมือง ประธานาธิบดีไบเดน จะกล่าวประณามรัสเซียที่ใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน รวมทั้งจะกล่าวถึงมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อรัสเซีย และมาตรการให้ความช่วยเหลือต่อยูเครน

การกล่าวแถลงนโยบายประจำปีข้างต้น จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ที่คะแนนนิยมของนายไบเดนตกต่ำเป็นประวัติการณ์เหลือเพียง 43% ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวอเมริกันเกี่ยวกับมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปี ว่าด้วยนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มีนาคมนี้ โดยอาจเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มีนาคม

ดาวโจนส์

การแถลงนโยบายการเงินดังกล่าวจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าวิกฤตการณ์ในยูเครน จะส่งผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดหรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายระบุว่า เฟดจะนำผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้งในยูเครน เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณานโยบายการเงินของเฟด

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนกุมภาพันธ์ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo