Stock

‘ดาวโจนส์’ ดิ่งเกิน 200 จุด นักลงทุนทิ้งสินทรัพย์เสี่ยง วิตกตึงเครียด ‘ยูเครน-รัสเซีย’

ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (18 ก.พ.)ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับตัวลดลง หลังความตึงเครียดในยูเครนเพิ่มสูงขึ้น และสหรัฐ ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน ทำให้บรรดานักลงทุน พากันทิ้งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ในการซื้อขายวันสุดท้าย ก่อนวันหยุดยาว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาว โจนส์ปิดที่ 34,079.18 จุด ลดลง 232.85 จุด หรือ 0.68%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,348.87 จุด ลดลง 31.39 จุด หรือ 0.72% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 13,548.07 จุด ลดลง 168.65 จุด หรือ 1.23%

ดาวโจนส์

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเกี่ยวกับยูเครน โดยในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาว โจนส์ลดลง 1.9%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.6% และดัชนีแนสแด็กลดลง 1.8%

ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (21 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

ตึงเครียดยูเครน-เฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ย กดดันดาวโจนส์ต่อเนื่อง

นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ของยูเครน โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุนได้ส่งพลเรือนเดินทางออกจากภูมิภาคในฝั่งตะวันออกของยูเครน ซึ่งมีการสู้รบกัน เพื่อลี้ภัยไปยังรัสเซีย ถือเป็นอีกสถานการณ์หนึ่งในความขัดแย้ง ที่ชาติตะวันตกเชื่อว่า รัสเซียวางแผนที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการบุกโจมตียูเครน

ขณะที่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และว่าชาติตะวันตก พยายามสร้างความหวาดกลัว

ตลาดยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม โดยนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า เป็นการเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม

นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังส่งผลกระทบกับหุ้นรายตัวด้วย โดยหุ้นอินเทล ร่วงลง 5.3% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 หลังบริษัทไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่วิตกว่า อินเทลจะสูญเสียส่วนแบ่งในตลาด

หุ้นโรกุ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ดิ่งลง 22% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2564 และแนวโน้มรายได้ในไตรมาสแรกของบริษัท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo