ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดตัวเลขเงินเฟ้อ พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้เกิดความกังวลว่า เฟดจะดำเนินมาตรการเชิงรุก เพื่อต้านเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 35,632.58 จุด ร่วงลง 135.48 จุด หรือ 0.38% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,562.35 จุด ลดลง 24.83 จุด หรือ 0.54% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,404.41จุด ลบ 85.97 จุด หรือ 0.59%
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า ราคาดัชนีผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนมกราคม ทะยานขึ้น 7.5% ต่อปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า จะเพิ่มขึ้น 7.3% และยังเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีสูงสุดในรอบ 40 ปี
ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงดังกล่าว ทำให้บรรดาเทรดเดอร์ พากันกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินมาตรการในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อคุมระดับเงินเฟ้อ
ขณะนี้ นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ โดยล่าสุด เชื่อว่า อาจจะปรับขึ้นถึง 0.50% จากเดิม ก่อนที่จะประกาศดัชนีซีพีไอ เสียงส่วนใหญ่ประเมินว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยราว 0.30%
หุ้นตัวใหญ่ในตลาด อย่าง แอปเปิ้ล อัลฟาเบท ไมโครซอฟท์ และอเมซอน ที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ย พากันร่วงลงตั้งแต่ 0.7% ถึง 1.2%
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ข้างต้น ช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มธนาคาร ที่จะได้ประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ย ทะยานสูงขึ้น ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นถึง 2% เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สมาคมนักวิเคราะห์ฯ ‘เฟ้น 5 หุ้นเด่น’ ปี 2565 – วางเป้า SET แตะ 1,760 จุด
- เจาะพอร์ตธุรกิจ Non-Oil ของ ‘ OR ‘ สู่การเติบโตที่มากกว่าน้ำมัน!!
- สหรัฐขอพลเมืองอเมริกัน ออกจากยูเครน หวั่นรัสเซียเพิ่มกำลังทหารชายแดน