Stock

ขาขึ้นหุ้นเทคโนโลยี-ธนาคาร หนุน ‘ดาวโจนส์’ ทะยานกว่า 300 จุด ‘ราคาน้ำมัน’ ร่วง ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์ทะยานสูงขึ้น แรงหนุนจากขาขึ้นของราคาหุ้นแอปเปิ้ล และไมโครซอฟท์ ทั้งบอนด์ยีลด์ ที่พุ่งขึ้น ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 35,462.78 จุด เพิ่มขึ้น 371.65 จุด หรือ 1.06% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,521.54 จุด เพิ่มขึ้น 37.67 จุด หรือ 0.84% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 14,194.45 จุด เพิ่มขึ้น 178.79 จุด หรือ 1.28%

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 1.9% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.965% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

ดาวโจนส์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีด้วย ทำให้ราคาหุ้นไมโครซอฟท์ ทะยานขึ้นมา 1.2% แอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 1.85% อเมซอน 2.2% และเทสลา ปรับขึ้น 1.62%

นักวิเคราะห์ชี้ว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปในลักษณะหมุนเวียนกลุ่มลงทุน (Sector Rotation) โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก และคาดว่าการหมุนเวียนกลุ่มลงทุนจะเกิดขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง  ซึ่งในขณะนี้ นักลงทุนอยู่ในช่วงของการปรับตัวกับฤดูการรายงานผลประกอบการ และเตรียมพร้อมที่จะรับรู้ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ที่จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ (10 ก.พ.)

ตลาดยังได้แรงหนุนขาขึ้น จากการคลายวิตกในเรื่องวิกฤติยูเครน หลังจากที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง  ของฝรั่งเศส ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้น

ระหว่างการหารือ นายปูตินได้ให้คำมั่นว่า รัสเซียจะไม่ดำเนินการทางการทหารใด ๆ ใกล้กับชายแดนยูเครนในขณะนี้ และจะถอนกำลังทหารที่เข้าไปฝึกในเบลารุสที่มีพรมแดนติดกับยูเครนเมื่อการซ้อมรบสิ้นสุดลง

ขณะที่ ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.1% จากความคืบหน้าการเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า อาจปูทางไปสู่การเปิดทางให้อิหร่านส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 89.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนมกราคม ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.พ.) โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีซีพีไอ จะพุ่งขึ้น 7.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2525

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่าตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% มาอยู่ที่ 80,700 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 83,000 ล้านดอลลาร์ จากระดับ 79,300 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน

ทั้งนี้ การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.6% มาอยู่ที่ 308,900 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.5% มาอยู่ที่ 228,100 ล้านดอลลาร์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo