ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สหรัฐ พลิกกลับมาปิดในแดนบวกได้ เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น แรงหนุนจากการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้ายตลาด หลังทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุด ระหว่างวัน ผลจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,364.50 จุด เพิ่มขึ้น 99.13 จุด หรือ 0.29%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,410.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.19 จุด หรือ 0.28% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 13,855.13 จุด เพิ่มขึ้น 86.21 จุด หรือ 0.63%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อในช่วงท้ายตลาด หลังจากดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนี ทรุดตัวลงอย่างหนักในระหว่างวัน โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,000 จุด
มาร์โค โคลาโนวิค นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน แสดงความเห็นว่า การทรุดตัวของสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมานั้นอาจจะยุติลงแล้ว เมื่อพิจารณาจากสัญญาณบ่งชี้ทางเทคนิคที่ระบุว่า ตลาดได้เข้าสู่เขต “Oversold” และบรรยากาศการซื้อขายสู่ภาวะหมี (Bear Market) ซึ่งหมายความว่า ตลาดอาจจะอยู่ในช่วงท้ายของการปรับฐาน (Correction)
นักวิเคราะห์ยังกล่าวด้วยว่า แรงเทขายอาจจะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เมื่อดูจากดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้นแตะระดับ 38.47 เมื่อคืนนี้ อันเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 โดยหากดัชนีความผันผวนพุ่งขึ้นทะลุระดับ 38 แล้ว ตลาดก็มีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้น
ในระหว่างวันนั้น หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวในแดนลบ แต่ในช่วงปิดตลาด มีหุ้น 3 กลุ่มที่ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานว่า สหรัฐและอังกฤษได้สั่งการให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ทูตเดินทางออกจากยูเครนในทันที และแนะนำให้พลเมืองของทั้ง 2 ประเทศ ทำตามด้วย
ขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประกาศเสริมกำลังทหารทั้งทางบก ทะเล และทางอากาศตามพรมแดนฝั่งตะวันออก เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่รัสเซียอาจทำการโจมตียูเครนในไม่ช้า
ทางด้านรัสเซียตรึงกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน ขณะที่การเจรจาระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกยังคงไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมเฟด ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธนี้ (26 ม.ค.) ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันของพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม ตามเวลาไทย ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนกรกฎาคม หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วิตก ‘รัสเซีย-ยูเครน’ เสี่ยงเกิดสงคราม ทุบ ‘ดาวโจนส์’ ทรุดหนักกว่า 700 จุด แนสแด็กร่วงเกิน 3%
- สหรัฐขอพลเมืองอเมริกัน ออกจากยูเครน หวั่นรัสเซียเพิ่มกำลังทหารชายแดน
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ หั่นคาดการณ์ ‘จีดีพีสหรัฐ’ ชี้ ‘โอไมครอน’ เพิ่มความเสี่ยง