Stock

‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 300 จุด เจอแรงเทขายหนัก ก่อนปิดตลาด

“ดาวโจนส์” ปิดตลาด ร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (20 ม.ค.) หลังนักลงทุนส่งคำสั่งขายเข้ามาในช่วงท้าย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ที่ยังเกาะติดตลาดอยู่ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,715.39 จุด ลดลง 313.26 จุด หรือ 0.89%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,482.73 จุด ลดลง 50.03 จุด หรือ 1.10% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 14,154.02 จุด ลดลง 186.23 จุด หรือ 1.30%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันก่อน ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ตลาดร่วงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนได้ส่งคำสั่งขายเข้ามาในช่วงท้าย ท่ามกลางความกังวลที่ยังเกาะติดอยู่ ถึงกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

Stocksbitcoin ๒๑๐๔๑๙ 0

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ประกาศสนับสนุนให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เริ่มใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดเคยนำมาใช้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก โดยเขามองว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และย้ำว่าภารกิจของเฟดคือการควบคุมเงินเฟ้อ

ตลาดยังถูกกดดันจากราคาหุ้น Peloton Interactive ที่ทรุดตัวลงเกือบ 24% หลังมีรายงานว่า Peloton ระงับการผลิตอุปกรณ์ออกกำลังกาย รวมถึงเครื่องปั่นจักรยาน เนื่องจากความต้องการลดลง

การร่วงลงอย่างหนักของหุ้น Peloton ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปเป็นจำนวนมากถึง 2,500 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สินค้าของบริษัทได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงที่ประชาชนต้องอยู่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของไวรัสโควิด-19

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.94% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 2.79% หุ้นไนกี้ ลดลง 1.64% หุ้นบาธ แอนด์ บอดี้ เวิร์คส์ ดิ่งลง 4.43%

ดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 1.43% นำโดยหุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ดิ่งลง 5.75% หุ้นนิวมอนท์ ลดลง 1.71% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 2%

ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 286,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 225,000 ราย และสูงกว่าตัวเลขที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 231,000 ราย

ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 4.6% สู่ระดับ 6.18 ล้านยูนิตในเดือนธันวาคม เมื่อเทียบรายเดือน และหากเทียบเป็นรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลง 7.1% ในเดือนธันวาคม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo