ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ในตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนในวันอังคาร (11 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด หลังมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควตาที่กำหนด
ทั้งนี้ โอเปคพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนมกราคม แต่สมาชิกบางราย ได้แก่ ไนจีเรีย และลิเบีย ไม่สามารถผลิตน้ำมันได้ตามโควตา เนื่องจากประสบปัญหาการผลิตในประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฝ่าฟันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไปได้ และเชื่อว่าผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจนั้นจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
นายพาวเวล แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า ห่วงโซ่อุปทานที่กลับสู่ภาวะปกติจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันจากเงินเฟ้อในปีนี้ แต่เฟดก็ไม่กลัวที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเชื่อมั่นว่า แผนการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐก็แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เฟดไม่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นขนานใหญ่อีกต่อไป
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ (12 ม.ค.) เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 มกราคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ความต้องการพุ่ง-จัดหาตึงตัว’ หนุน ‘ราคาน้ำมันโลก’ ปี 65
- ‘ไออีเอ’ เตือนต้นปี 65 น้ำมันจ่อล้นตลาด ‘โอไมครอน’ ทำความต้องการร่วง
- คาดรัฐเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซล – ก๊าซหุงต้มดันเงินเฟ้อพุ่ง 1.1%