ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 400 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ดิ่งลงรุนแรงที่สุดในรอบ 11 เดือน หลังจากรายงานการประชุมเดือนธันวาคม ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธันวาคม ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (7 ม.ค.)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,407.11 จุด ลดลง 392.54 จุด หรือ 1.07% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,700.58 จุด ลดลง 92.96 จุด หรือ 1.94% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 15,100.17 จุด ลดลง 522.54 จุด หรือ 3.34%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันที หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 14-15 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าตลาดแรงงานของสหรัฐ อยู่ในภาวะตึงตัวอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เท่านั้น แต่ยังรวมถึง การปรับลดการถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
“กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจ ภาวะตลาดแรงงาน และเงินเฟ้อ ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Federal Funds Rate) ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หรือรวดเร็วกว่าที่กรรมการเฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่กรรมการเฟดบางส่วนมองว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ของเฟดในทันทีหลังจากที่มีการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” รายงานการประชุมระบุ
เจย์ แฮทฟิลด์ นักวิเคราะห์จาก Infrastructure Capital Management กล่าวว่า หากเฟดปรับลดงบดุลบัญชี ก็ถือเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่า นอกจากเฟดจะไม่อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว เฟดยังจะระบายออกด้วย
นอกจากนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นเติบโต (Growth Stocks)
ทางด้าน ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ขยับขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 77.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม ในการประชุมนโยบายการผลิตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ส่วยราคาทองคำ ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ทะยานขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,825.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นการปิดแดนบวก ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ ประกอบกับเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ช่วยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บัฟเฟตต์’ รุกซื้อหุ้นแอปเปิ้ลเพิ่ม หลังมาร์เก็ตแคปทะลุ 3 ล้านล้านดอลล์
- มุมมองการลงทุน วิเคราะห์ ‘หุ้นเด่น ปี 2565’
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งปี 65 หยุดทำ ‘คิวอี’ เดือนมี.ค.