Stock

‘ดาวโจนส์’ ทะยานไม่หยุด พุ่งกว่า 200 จุด ทำนิวไฮรอบใหม่ คลายกังวล ‘โอไมครอน’

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (4 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์ ยังทะยานไม่หยุด ทำนิวไฮรอบใหม่ แรงหนุนจากพยานหลักฐานที่บ่งชี้มากขึ้นว่า “โอไมครอน” ไม่ทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรง ประกอบกับข้อมูลกิจกรรมการผลิตที่แข็งแกร่ง จากยุโรป และเอเชีย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาว โจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 36,823.52 จุด พุ่งขึ้น 238.46 จุด หรือ 0.65% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,785.91 จุด ลดลง 10.65 จุด หรือ 0.22% และดัชนีแนสแด็กที่ 15,553.21 จุด ร่วงลง 279.59 จุด หรือ 1.77%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายวานนี้ (3 ม.ค.) แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง หลังคลายความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังผลการวิจัยบ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิต และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้รัฐบาลของหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ดาวโจนส์

หุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ต่างดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้ แม้มีรายงานว่าสหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 1 ล้านรายในวันเดียวก็ตาม

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นเช่นกัน สอดคล้องกับการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

เจพีมอร์แกน เชส ออกรายงานล่าสุดในวันนี้ระบุว่า ตลาดหุ้นยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น  แม้ว่าที่ผ่านมาได้ทะยานขึ้นมากแล้ว ขณะที่ไวรัสโอไมครอนรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ และคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะยังคงเพิ่มขึ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ก่อนหน้านี้ เจพีมอร์แกนออกรายงานระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยุติลง โดยสายพันธุ์โอไมครอนจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้โควิด-19 กลายเป็นเพียงโรคประจำฤดูกาล

นักลงทุนจับตาตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งหากออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo