ตลาดหุ้นสหรัฐ เปิดซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (27 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทะยานกว่า 200 จุด ทะลุแนว 36,000 จุด จากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 36,166.03 จุด พุ่งขึ้น 215.47 จุด หรือ 0.60% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,770.44 จุด ปรับขึ้น 44.65 จุด หรือ 0.94% และดัชนีแนสแด็กที่ 15,827.21 จุด ทะยานขึ้น 173.84 จุด หรือ 1.11%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง โดยบริษัทหลายแห่งประกาศยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 800 เที่ยวบินในวันนี้ หลังจากระงับเที่ยวบินมากกว่า 3,000 เที่ยวบินในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
FlightAware.com ซึ่งให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการบิน รายงานว่า สายการบินหลายแห่งของสหรัฐ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินราว 740 เที่ยวบิน ทั้งภายในสหรัฐ หรือเที่ยวบินออกจากสหรัฐ หลังจากที่ประสบปัญหาขาดแคลนพนักงาน เนื่องจากนักบิน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องจำนวนมากต้องถูกกักตัว จากสาเหตุการติดเชื้อโควิด-19
นอกจากนี้ สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในบางเส้นทาง ก็เป็นสาเหตุทำให้มีการระงับเที่ยวบินในวันนี้ด้วย
ทางด้าน นพ.แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สายพันธุ์โอไมครอนยังคงแพร่ระบาดไปทั่วโลก
ขณะนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 53.2 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 837,000 ราย
นักลงทุนยังคงหวังว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีท จะดีดตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้ จากปรากฎการณ์ “ซานต้า แรลลี่” ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471
ก่อนหน้านี้ นายมาร์โก โคลาโนวิช หัวหน้านักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส ประเมินว่า ในปีหน้าจะเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยุติลง และเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ โดยสภาวะตลาดกลับสู่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
เขาบอกด้วยว่า แม้โอไมครอนจะระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่รายงานวิจัยต่าง ๆ บ่งชี้ว่า สายพันธุ์นี้มีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบวิวัฒนาการของไวรัสในอดีต และเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณว่าการแพร่ระบาดใกล้ยุติแล้ว
นายโคลาโนวิชยังคาดการณ์ว่า ดัชนีเอสแอนด์พี 500 จะพุ่งขึ้นเกือบ 8% ในปีหน้า สู่ระดับ 5,050 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ทะยานขึ้น 18% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวแตะ 2.25% ในช่วงสิ้นปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ หั่นคาดการณ์ ‘จีดีพีสหรัฐ’ ชี้ ‘โอไมครอน’ เพิ่มความเสี่ยง
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ฟื้นตัวช้า เซ่นพิษ ‘เดลตา’ ระบาดหนัก
- ทั่วโลกยกเลิกกว่า 4,500 เที่ยวบินช่วงคริสต์มาส สหรัฐมากสุด
