ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (10 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดัชนีหลัก ๆ ขยับตัวในช่วงแคบ หลังข้อมูลเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค ปรับขึ้นสอดคล้องกับกระแสคาดการณ์ที่ออกมา ช่วยคลายแรงกดดันของนักลงทุน ต่อการเคลื่อนไหวด้านนโยบายของเฟด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 35,777.69 จุด ขยับขึ้นมา 23 จุด หรือ 0.06% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,684.69 จุด ปรับขึ้น 17.24 จุด หรือ 0.37% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 15,531.68 จุด บวก 14.31 จุด หรือ 0.09%
วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.7%
นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7% โดยดัชนี CPI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี เมื่อเทียบรายปี
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนที่แล้ว เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และพุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิุนายน 2534 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์เช่นกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นยังคงดีดตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนได้รับรู้คาดการณ์เงินเฟ้อก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งตลาดยังคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังจากที่ตัวเลข CPI ต่ำกว่าระดับ 7% ที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ไว้
ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธันวาคมนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในวันนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โอไมครอน! ฉุดดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนร่วง 19.9% แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง
- สำรวจ ‘หุ้นส่งออก’ เงินบาทอ่อนค่า กำไรโตแค่ไหน?
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ฟื้นตัวช้า เซ่นพิษ ‘เดลตา’ ระบาดหนัก