โอไมครอน การระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า “โอไมครอน” (Omicron) ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกพังทลายลงทันที โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 25-30 พฤศจิกายน 2564 พบว่า S&P500 Index ร่วงแรงกว่า 4.01% ขณะที่ตลาดหุ้นไทย SET Index ปรับลดลง 4.84% แม้แต่สินทรัพย์ทางเลือกในเวลานี้อย่างคริปโตฯ ก็ลดลงหนักไม่ต่างกัน
ความน่ากลัวของ Omicron คือการแพร่กระจายที่ง่ายกว่าสายพันธุ์ Delta และก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องความรุนแรง ซึ่งความไม่แน่นอนแบบนี้เป็นสิ่งที่ตลาดไม่ชอบ จึงมักเกิดเหตุการณ์ Risk Off หรือกลัวเลยขายออกไปก่อนนั่นเอง
คำถามคือเรามองเหตุการณ์แบบนี้เป็นโอกาสหรือความเสี่ยง เพราะในช่วง 1-2 ปีมานี้ เห็นลูปการลงทุนแบบนี้มาหลายรอบแล้ว นั่นคือ ‘เจอข่าวร้าย – ตลาดกลัว – หุ้นลง – สถานการณ์คลี่คลาย – หุ้นขึ้น’ ดังนั้น หากเราทยอยเก็บหุ้นในกลุ่มปลอดภัยที่ไม่ได้รับผลกระทบในเชิงพื้นฐานไว้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของลูป แปลว่าในวันข้างหน้าเราจะมีหุ้นอัพไซด์สูงในพอร์ต
โอไมครอน หุ้นได้ประโยชน์จาก Omicron
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที ประเมินว่า ไวรัส Omicron จะเป็นปัจจัยกดดันดัชนีหุ้นไทยอีกหลายเดือน เพราะคาดว่าจะใช้เวลาปรับสูตรวัคซีนต้านสายพันธุ์ใหม่ราว 100 วัน สำหรับกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคงหนีไม่พ้น โรงแรม, สายการบิน และโรงกลั่นน้ำมัน ทว่าในทางกลับกันจะมีหุ้นที่ได้รับประโยชน์ คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามามาก โดยมีทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่
1. โรงพยาบาล
หุ้นแนะนำ : BCH, CHG
จะได้ประโยชน์จากความต้องการรักษาผู้ป่วยโควิดที่สูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในเรื่องเตียงรักษา และเน้นรับผู้ป่วยคนไทยเป็นหลัก
2. อุปกรณ์การแพทย์และอาหารเสริม
หุ้นแนะนำ : STGT, SMD, MEGA
เมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าย่อมส่งผลให้ความต้องการอุปการณ์ทางการแพย์ และอาหารเสริมกลุ่มวิตามินต่างๆ ปรับขึ้นอยู่ในระดับสูงต่อไป เพราะคนต้องการภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง
3. จำหน่ายอุปกรณ์และสินค้าไอที
หุ้นแนะนำ : COM7, SIS, SYNEX
สินค้าไอทีจะเป็นกลุ่มไม่ค่อยได้รับผลกระทบในด้านยอดขายอะไรมากนัก เพราะว่าความต้องการของคนทั่วไปยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับความต้องการในระดับองค์กรที่จะมีการลงทุนทำระบบไอทีมากขึ้น
4. ธุรกิจที่เป็น Global Play
หุ้นแนะนำ : TU, ASIAN, KCE, HANA, NER, SUN
Global Play คือ กลุ่มที่ธุรกิจไม่ได้อ้างอิงกับการเติบโตในประเทศ แต่เน้นสร้างการเติบโตจากตลาดทั่วโลก ซึ่งจะยังคงได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าอยู่ในตอนนี้
ลองนำบทวิเคราะห์ดังกล่าว เป็นไกด์ไลน์ในการวิเคราะห์หุ้นเพิ่มเติมกันได้ เพราะแม้ว่าในวันนี้ราคาหุ้นหลายตัวจะปรับตัวลงมา แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด เมื่อมีคนได้รับผลกระทบ ก็ย่อมมีคนได้รับประโยชน์เป็นเรื่องปกติ
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พรีวิวเงินปันผลหุ้นธนาคาร ปี 2564 หลังธปท.ปลดล็อก!
- เปิดโมเดลการเติบโต ‘CKP’ ทะยานสู่กำลังการผลิต 5,000 MW
- รู้จักเหรียญคริปโต สัญชาติไทย ‘KUB-JFIN-SIX’ โอกาสและความเสี่ยง?