โอไมครอนฉุด!! “สภาธุรกิจตลาดทุนไทย” เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 135.16 ปรับตัวลดลง 19.9% เข้าสู่เกณฑ์ “ร้อนแรง”
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2564 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 135.16 ปรับตัวลดลง 19.9% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง”
หวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมา คือ แผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โควิด-19 และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่ปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ รองลงมา คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศและการไหลออกของเงินทุน
ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยสรุปดังนี้
- ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ก.พ.65) อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” (ช่วงค่าดัชนี 120-159) ปรับตัวลดลง 19.9% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ระดับ 135.16
- ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มนักลงทุนบุคคล กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในระดับ “ร้อนแรง” ส่วนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ อยู่ในระดับ “ทรงตัว”
- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
- หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ นักลงทุนเห็นว่าหมวดแฟชั่น (FASHION)
- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
- ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่
ความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ผลสำรวจ ณ เดือนพฤศจิกายน 2564 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่าความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยนักลงทุนบุคคลปรับลด 16.2% อยู่ที่ระดับ 135.48 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 37.5%% มาอยู่ที่ระดับ 100.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลด 5% อยู่ที่ระดับ 150.00 และ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับลด 22.2% อยู่ระดับ 140.00
“ในช่วงเดือน พ.ย.64 SET Index ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ที่ประกาศออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้” นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน SET index ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศจากความกังวลต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ซึ่งกำลังระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้หลายประเทศกลับมาใช้นโยบายปิดประเทศและจำกัดการเดินทาง รวมถึงการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยในการคำนวณดัชนี MSCI ส่งผลให้ในเดือน พ.ย. นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดทุนไทยกว่า 10,182 ล้านบาท
โดย SET index ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ปิดที่ 1,568.69 จุด ปรับตัวลดลง 3.4% จากเดือนก่อนหน้า
ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ การกลับมาระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ในยุโรป ความกังวลต่อการระบาดและกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ซึ่งวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยควบคุมการระบาด และหลายประเทศเริ่มประกาศการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศอีกครั้ง
รวมถึงปัจจัยด้านแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางในหลายประเทศ อีกทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากการควบคุมไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมและผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ แผนการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศให้อยู่ในวงจำกัด และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ จากภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากภาคอุปสงค์ในประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สำรวจ ‘หุ้นส่งออก’ เงินบาทอ่อนค่า กำไรโตแค่ไหน?
- หุ้นไทยปิดตลาด ลบ 3.65 จุด แกว่งแคบ รอคืบหน้าโอไมครอน-บิ๊กแคปกดดัน
- ‘เจพีมอร์แกน’ เชียร์นักลงทุน ‘เข้าซื้อหุ้น’ ชี้ ‘โอไมครอน’ อาจเป็นจุดจบ ‘โควิด-19’