ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังรับรู้เรื่องดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,476.44 จุด ทะยานขึ้น 454.40 จุด หรือ 1.34% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,552.98 จุด ปรับขึ้น 39.94 จุด หรือ 0.88% และดัชนีแนสแด็กที่ 15,272.71 จุด บวก 18.66 จุด หรือ 0.12%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ต่างพุ่งขึ้นในการซื้อขายวันนี้ แม้มีการพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในสหรัฐ และทำเนียบขาวได้ออกกฎคุมเข้มการเดินทาง โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าสหรัฐจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายในเวลา 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางมายังสหรัฐ
ทางด้านเจพีมอร์แกน เชส ออกรายงานว่า ภาวะตลาดที่ปั่นป่วนในขณะนี้ ซึ่งมีสาเหตุจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในการเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเปิดประเทศและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
นายมาร์โก โคลาโนวิช และนายบราม แคปแลน นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุในรายงานว่า แม้โอไมครอนจะระบาดได้รวดเร็วกว่า แต่รายงานก็บ่งชี้ว่าสายพันธุ์นี้มีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบวิวัฒนาการของไวรัสในอดีต และเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณว่าการแพร่ระบาดใกล้ยุติแล้ว
“โอไมครอนสอดคล้องกับรูปแบบในอดีตที่บ่งชี้ว่า ไวรัสที่มีการแพร่ระบาดมากกว่า แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า จะเข้ามาแทนที่ไวรัสสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมากกว่า ซึ่งจะทำให้โอไมครอนเป็นตัวเร่งให้การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 กลายเป็นเพียงบางสิ่งที่คล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเท่านั้น”
นอกจากนี้ โอไมครอนอาจเป็นตัวเร่งให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรชันขึ้น (ไม่ใช่แบนราบลง) และทำให้นักลงทุนถอนตัวออกจากหุ้นในกลุ่ม growth stock เพื่อเข้าซื้อกลุ่ม value stock และมีการเทขายหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากโควิดและมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ทำให้หุ้นกลุ่มเปิดประเทศดีดตัวขึ้น
“เรามองว่าการเทขายหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มวัฏจักร, กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มเปิดประเทศ และปรับโพสิชั่นสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่จะดีดตัวและสูงชันขึ้น”
วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 107,000 ราย สู่ระดับ 1.96 ล้านราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปรับตัวต่ำกว่าระดับ 2 ล้านรายนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2563
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าอัตราการว่างงานจะปรับตัวลงสู่ระดับ 4.5%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พาวเวล’ มั่นใจ ‘มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ’ ไม่ทำสหรัฐ เจอ ‘เงินเฟ้อ’ รุนแรง
- ‘พาวเวล’ ให้คำมั่น ‘ทำทุกอย่าง’ หนุนเศรษฐกิจสหรัฐ ‘เฟด’ ตรึงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม
- ‘พาวเวล’ ระบุ ‘โควิด’ ชี้ชะตาเศรษฐกิจสหรัฐ ย้ำ ‘นโยบายคลัง’ เครื่องมือช่วยฟื้นตัว