Stock

‘ซีพี ออลล์’ ขึ้นเบอร์ 1 อุตฯ Food & Staples Retailing ติดดัชนียั่งยืน DJSI 5 ปีซ้อน

DJSI ยก ซีพี ออลล์ ขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 ของโลกปี 2564 กลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing และติดดัชนีความยั่งยืน DJSI 5 ปีซ้อน

ผลการประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก โดย S&P Dow Jones Indices และ RobecoSAM ประจำปี 2564 ปรากฏว่า บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) หรือ DJSI อุตสาหกรรม Food & Staples Retailing กลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2560-2564)

01 1

และกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 (2561-2564) และยังเป็นผู้นำอุตสาหกรรม (Industry Leader) ดังกล่าวอีกด้วย ถือเป็นสิ่งที่การันตีถึงการบริหารธุรกิจให้เติบโต ไปพร้อมกับการสร้างคุณค่าแห่งความยั่งยืนในทุกมิติตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา

ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2542 เป็นตัวชี้วัดที่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกให้การยอมรับ และใช้เป็นข้อมูลในการลงทุน เพื่อเลือกลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ กลั่นกรองมาจากการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่โปร่งใสมีประสิทธิภาพ ผ่านแบบประเมินด้านความยั่งยืน Corporate Sustainability Assessment (CSA) โดยครอบคลุมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม  และธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ มีบริษัทชั้นนำเข้ารับการประเมินกว่า 8,000 แห่ง คิดเป็น 90% ของมูลค่าตลาดทุนโลก

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 33 ปี ซีพี ออลล์ มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสะดวก และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชุมชน สังคม แต่ละย่างก้าวของความสำเร็จ บริษัทไม่เพียงคำนึงถึงการพัฒนาธุรกิจสู่ความเป็นเลิศ แต่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร ตามค่านิยม 3 ประโยชน์ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้น เป็นสิ่งที่ได้ยึดมั่นเสมอมา

การยังคงได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI อย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นความภาคภูมิใจอันมาจากความร่วมมือร่วมใจ และเป็นภารกิจที่ทุกคนในองค์กรจะต้องรักษาเจตนารมย์อันดีนี้ไว้

03 1

“ด้วยปณิธานร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน เราได้ส่งมอบโอกาสสู่สังคมไม่ว่าจะเป็น SME เกษตรกร กลุ่มเปราะบาง ภายใต้แนวคิดกองหนุนความรู้ กองหนุนความร่วมมือ และกองหนุนช่องทางขาย”

ขณะเดียวกันได้ให้อนาคตทางการศึกษาแก่เยาวชน และผู้ด้อยโอกาส ผ่านโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED และทุนการศึกษาปัญญาภิวัฒน์ เพื่อเป็นการวางรากฐานให้พึ่งพาตนเองได้

ด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทดำเนินกลยุทธ์ 7 Go Green ซึ่งไม่เพียงแต่ภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังสร้างการมีส่วนร่วมทั้งกับคู่ค้า ลูกค้า และชุมชน เพื่อการลดการใช้พลาสติกอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

สำหรับด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ ซีพี ออลล์ มีการส่งเสริมธรรมาภิบาลตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งการสร้างแรงบันดาลใจในหมู่พนักงาน และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคู่ค้า เพื่อให้มั่นใจว่า คนของบริษัทมีความซื่อสัตย์ ทุกกระบวนการโปร่งใสตรวจสอบได้

ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซีพี ออลล์ไม่เคยรีรอที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนในหมู่ผู้ได้รับผลกระทบ อีกทั้งสนับสนุนภารกิจที่เกี่ยวข้อง เพราะซีพี ออลล์ เป็นองค์กรที่อยู่เคียงคู่สังคมไทยในทุกวิกฤติ ซึ่งผลพวงจากปัจจัยนี้ได้นำมาซึ่งชีวิตปกติวิถีใหม่ (New Normal) บริษัทก็พร้อมปรับปรุงพัฒนาสินค้า และบริการเพื่อตอบสนองคนไทยให้ได้รับความสะดวก แต่สร้างความยั่งยืนสู่สังคมต่อไป

06

สำหรับผลการประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจ ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปีนี้ ซีพี ออลล์ มีคะแนนรวมเพิ่มขึ้นจาก 82 คะแนน เป็น 86 คะแนน

สิ่งแวดล้อม

  • Packaging เพิ่มจาก 77 เป็น 99 คะแนน
  • GMO จาก 70 เป็น 100 คะแนน
  • Sustainable Agricultural Practice จาก 52 เป็น 78 คะแนน

ขณะที่ Environmental reporting และ Water Related Risks ยังรักษาคะแนนเต็ม 100 ไว้ได้เช่นเดิม

05 1

สังคม

  • Labor Practice Indicators เพิ่มจาก 77 เป็น 89 คะแนน
  • Talent Attraction & Retention จาก 55 เป็น 67 คะแนน

ขณะที่ Social Reporting ,Human right และ Corporate Citizenship & Philanthropy ยังรักษาคะแนนเต็ม 100 ไว้ได้เช่นเดิม

ธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ

  • Privacy protection เพิ่มจาก 80 เป็น 100 คะแนน

ขณะที่ Materiality, Customer Relationship และ Policy influence ยังรักษาคะแนนเต็ม 100 ไว้ได้เช่นเดิม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo