หุ้น OR ทุกคนรู้จัก หุ้น OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กันเป็นอย่างดีในฐานะคือเป็นผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย รวมแล้วกว่า 2,300 สาขา
สถานีบริการน้ำมันถือว่า เป็นธุรกิจหลักที่สร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) ให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง และด้วยข้อได้เปรียบทั้งเรื่องจำนวนสาขา จุดตั้ง (location) ที่มักอยุ่บนถนนเส้นหลักหรือในตัวเมือง ทำให้ PTT Station มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก และมีส่วยแบ่งทางการตลาดมาเป็นอันดันหนึ่ง
จุดนี้เองทำให้ OR ใช้ย่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มที่เรียกว่า Non-Oil ซึ่งนำมาด้วยธุรกิจร้านสะดวกซื้อ อาทิ 7-Eleven และ Jiffy รวมถึงกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร-เครื่องดื่มที่กำลังสร้างการเติบโตของรายได้ รวมถึงเกื้อหนุนธุรกิจกันและกันกับสถานีบริการน้ำมัน
หุ้น OR กับธุรกิจในเครือ
อย่างล่าสุด OR ก็เพิ่งมีข่าวให้ตื่นเต้นอีกครั้งกับการรุกธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ซื้อหุ้นร้านอาหารญี่ปุ่น “โคเอ็น ซูชิ บาร์” มูลค่า 192 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้น 25% ของบริษัท อิ่มทรัพย์ โกลบอล คูซีน จำกัด โดยเหตุผลการเข้าซื้อในครั้งนี้ว่าต้องการเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจและผลิตภัณฑ์ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสร้างโอกาสในการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ
และหากจำกันได้ในช่วงต้นปี 2564 ทาง OR ก็ได้ปิดดีลซื้อหุ้นร้านอาหารเพื่อสุขภาพ “โอ้กะจู๋” มูลค่า 500 ล้านบาท เพื่อแลกกับสัดส่วนหุ้น 20% ของบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ซึ่งขณะนั้นบริษัทให้เหตุผลว่าต้องการขยายการขายอาหารในรูปแบบ Grab&Go ผ่านร้าน Cafe Amazon และตั้งเป้าจะขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ไปตามสถานีบริการน้ำมันในอนาคต
วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลมาให้เห็นกับครบๆ ว่าปัจจุบันพอร์ตธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มของ OR มีอะไรบ้าง?
1. Café Amazon
ธุรกิจร้านกาแฟที่มีมากกว่า 3,700 สาขา จำนวนมากที่สุดในประเทศไทย กินส่วนแบ่งตลาดในแง่ของยอดขายอยู่ที่ 39.4% และหากนับเฉพาะส่วนแบ่งของการขายกาแฟในปั๊มน้ำมัน Café Amazon กินส่วนแบ่งตลาดอยู่กว่า 84.1%
2. Texas Chicken
ร้านฟาสต์ ฟู้ด ไก่ทอด ที่มีอยู่กว่า 80 สาขาในประเทศไทย ซึ่งเป็นเฟรนไชส์จากสหรัฐอเมริกาที่ OR นำเข้ามาในไทยเมื่อปี 2558 แต่สาขาขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีคู่แข่งเบอร์ใหญ่ที่เป็นกำแพงอย่าง KFC และ McDonald’s
3. ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ
ภัตตาคารอาหารจีนเก่าแก่ที่ต่อยอดมาสู่แบรนด์ใหม่ “ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ” ในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่เน้นขายติ่มซำในแบบที่เข้าถึงง่ายซื้อสะดวก โดยเป็นการร่วมมือระหว่าง OR กับ บริษัท ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ จำกัด ปัจจุบันมีจำนวนสาขากว่า 60 แห่งทั่วประเทศ
4. Pearly Tea
ร้านชานมไข่มุกสไตล์ไต้หวันของกลุ่ม OR ที่มีมากกว่า 150 สาขาทั่วประเทศ
5. โอ้กะจู๋
ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ OR ถือหุ้นในสัดส่วน 20% โดยปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 14 สาขา ในกรุงเทพ 12 สาขา และที่เชียงใหม่อีก 2 สาขา
6. โคเอ็น ซูชิ บาร์
ร้านบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียมที่ OR ถือหุ้นในสัดส่วน 25% โดยปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 19 สาขา
หุ้น OR กับพอร์ตธุรกิจร้านอาหาร
คำถามที่น่าสนใจก็คือ OR รุกธุรกิจร้านอาหารไปทำไม? คำตอบนี้อยู่ในงบการเงินของบริษัท โดยภาพรวมครึ่งปี 2564 OR มีรายได้รวมอยู่ที่ 237,168 ล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิ 7,228 ล้านบาท คิดเป็น 3% ของรายได้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน้อย เพราะถูกลดทอนจากน้ำหนักของธุรกิจน้ำมันที่อัตรากำไรค่อนข้างต่ำ และต้องพึ่งพิงภาวะตลาดโลกมากเกินไป
เพราะฉะนั้น OR จึงต้องหาวิธีที่ปรับเพิ่มอัตรากำไรสุทธิให้ดีขึ้น หนึ่งในกลยุทธ์หลักก็คือการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-oil ซึ่งธุรกิจร้านอาหารเป็นเป้าหมายหลักที่บริษัทกำลังโฟกัสอยู่นั่นเอง
สุดท้ายก็ต้องติดตามกันว่าจำนวนเงินที่ลงทุนไปกับการเพิ่มพอร์ตธุรกิจร้านอาหารของ OR จะกลับมาเป็นกำไรได้มากน้อยแค่ไหน และธุรกิจดังกล่าวจะยังสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดได้เหมือนช่วงที่ผ่านมาหรือไม่ ด้วยการแข่งขันที่รุนแรง และโมเดลธุรกิจที่ต้องปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหลังการมาของวิกฤต COVID-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วิเคราะห์ ‘AOT’ จับทิศทางลม หุ้นเทิร์นอะราวด์!
- ปตท. รุกกลุ่มธุรกิจใหม่ ‘Life Science’
- ดีล ปตท. ลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า วางงบ 10 ปี 5.5 แสนล้านบาท
