ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (14 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 500 จุด ขานรับผลประกอบการธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ดีกว่าคาด ทั้ง นักลงทุนยังคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ต่ำกว่าคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,879.84 จุด พุ่งขึ้น 502.03 จุด หรือ 1.46% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,433.03 จุด ปรับขึ้น 69.23 หรือ 1.59% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,820.75 จุด ทะยานขึ้น 249.12 จุด หรือ 1.71%
แบงก์ ออฟ อเมริกา, ซิตี้ กรุ๊ป, มอร์แกน สแตนลีย์ และเวลส์ ฟาร์โก ต่างเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจต่างพุ่งขึ้นในการซื้อขายวันนี้ เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 293,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 318,000 ราย และต่ำกว่าระดับ 329,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 334,250 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2563
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 134,000 ราย สู่ระดับ 2.59 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เช่นกัน
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนสิงหาคม
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน 2553 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.7% หลังจากดีดตัวขึ้น 8.3% ในเดือนสิงหาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- IMF ชี้เศรษฐกิจโลกโต ‘ลดลงเล็กน้อย’ ปีนี้
- จับตาวิกฤติพลังงานซ้ำเติมโควิด ฉุดเศรษฐกิจโลกรอบใหม่
- ‘เอดีบี’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 64 โตแค่ 0.8% ชี้ปัจจัยเสี่ยง ‘โควิดระบาดรอบใหม่-ฉีดวัคซีนช้า’