ราคาน้ำมันเอเชียวันนี้ (6 ต.ค.) ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พุ่งต่อเนื่อง แตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการจัดหา
น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 0.09% ที่ 78.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นช่วงสั้น ๆ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 82.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงมา 0.08% ส่วนราคา
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ราคาน้ำมันยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยในการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ที่ 78.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธันวาคม ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 82.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2561
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับสูงสุดในรอบหลายปี เนื่องจากนักลงทุนขานรับการประชุมของ กลุ่มโอเปค และชาติผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม หรือ โอเปคพลัส ที่ยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวันในแต่ละเดือน แม้ว่าถูกกดดันจากนานาประเทศ ให้เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าระดับดังกล่าว เพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในขณะนี้
รายงานวิจัยของซีบีเอ ชี้ว่า แนวโน้มการผลิตน้ำมันของโอเปค บ่งชี้ว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรอง ของโลก จะลดลงไปอีก ซึ่งจะยิ่งสร้างความกังวลขึ้นมา เพราะปริมาณน้ำมันสำรองในขณะนี้ ก็อยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว
ตลาดยังวิตกว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากทั่วโลกมีความต้องการน้ำมันเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่หลายชาติกลับมาเปิดเศรษฐกิจกันอีกครั้งหนึ่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตา! ‘น้ำมัน’ ส่อขาขึ้นยาว แนวโน้มราคาพุ่งถึง 100 ดอลล์
- ‘ตรึงอัตรา’ เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน-ขยายกรอบวงเงิน 10,000 ล้าน อุดหนุนแอลพีจีต่อเนื่อง
- ดาวโจนส์พุ่ง 311 จุด น้ำมันขึ้นไม่หยุด รอบ 7 ปี ขณะทองคำร่วง