Stock

หุ้นสัปดาห์หน้าโอกาสขยับขึ้น ขณะค่าเงินบาทแนวโน้มอ่อน

หุ้นสัปดาห์หน้า มีโอกาสขยับขึ้น จากข่าวเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 รับเปิดกิจกรรมเศรษฐกิจ ขณะค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-33.00 บาท/ดอลลาร์

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า หุ้นสัปดาห์หน้า (13-17 กันยายน)  มีแนวรับที่ 1,620 และ 1,610 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,655 จุด ตามลำดับ

หุ้นสัปดาห์หน้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศ ประเด็นการเมืองภายในประเทศ ตลอดจนทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ผลผลิตอุตสาหกรรม มูลค่านำเข้าและส่งออกเดือนสิงหาคม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนสิงหาคมของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนสิงหาคม และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมของยูโรโซน ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนสิงหาคมของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร   

หุ้นไทยปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,635.35 จุด 0.91% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 90,658.68 ล้านบาท ลดลง 14.97% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 4.25% มาปิดที่ 548.71 จุด  

ภาพรวมหุ้นไทยแกว่งตัวอิงขาลงตลอดสัปดาห์ ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกไปค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาครับข่าวที่ระบุว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน

นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อหุ้นบางกลุ่มที่อาจได้รับอานิสงส์จากการที่จะมีการเร่งปูพรมฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมดอย่างน้อย 50% ทุกจังหวัด

ธนาคารกสิกรไทย มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป ที่ 32.50-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสเงินลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิดของไทย

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคานำเข้า/ส่งออก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคม ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนกันายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนีราคาบ้าน อัตราการว่างงาน ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนสิงหาคมของจีน ด้วยเช่นกัน

เงินบาทขยับแข็งค่ากลับมาได้เล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากปรับตัวในทิศทางอ่อนค่าในระหว่างสัปดาห์ตามจังหวะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ขยับแข็งค่าขึ้นในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า

เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าและทยอยปรับตัวแข็งค่ากลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามเงินหยวนและเงินเอเชียอื่นๆ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันจากการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และการส่งสัญญาณปรับระดับการซื้อสินทรัพย์ผ่านโครงการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)   

ในวันศุกร์ (10 กันยายน) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (3 กันยายน)

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo