Stock

หุ้นไทยไตรมาส 4 ปรับขึ้นได้จำกัด  เหตุกำไรบจ.-เศรษฐกิจฟื้นช้า 

หุ้นไทย หมดรอบขาลง แต่ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้อีกไม่มาก เพราะเศรษฐกิจและผลกำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้นช้า คาดไตรมาส 4 ระดับเหมาะสมของดัชนีอยู่ที่กรอบ 1,595 – 1,643 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด(Mr. Apichat Poobunjirdkul, Senior Strategist, TISCO Securities Co., Ltd) เปิดเผยว่า สถานการณ์ระบาดในประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมทั้งยอดผู้ติดเชื้อใหม่และยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่ค่อยๆ ปรับตัวลดลง

หุ้นไทย

ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปัญหาภาวะเตียงตึงตัวก็เริ่มคลี่คลายลงเช่นกัน ส่งผลให้รัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะแรกในวันที่ 1 กันยายนนี้ และบล.ทิสโก้คาดว่าจะมีการทยอยปลดล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดช่วง 1 – 2 เดือนนี้

ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคมเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เฉลี่ยวันละ 4.52 แสนโดสเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากเดือนก่อนหน้าที่เฉลี่ยอยู่ที่ 2.50 แสนโดส พร้อมกับแผนการจัดหาวัคซีนมีความคืบหน้า โดยล่าสุด AstraZeneca ยืนยันจะเร่งส่งมอบวัคซีนให้ครบ 61 ล้านโดสในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้ยอดการจัดหาวัคซีนทุกประเภทในสิ้นปีนี้รวมกันเกินกว่า 120 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรกว่า 60 ล้านคนแล้ว หากสามารถดำเนินการได้ตามแผน คาดไทยจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในสิ้นปีนี้ หนุนแนวโน้มการเปิดประเทศตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป

แม้ความหวังสถานการณ์ระบาดและแผนการจัดหาวัคซีนดีขึ้น จะช่วยหนุนตลาดหุ้นรอบนี้ดีดกลับขึ้นมาทะลุระดับ 1,600 จุด ได้อีกครั้งจากกระแสเงินทุนไหลกลับ แต่ บล.ทิสโก้มองว่า ดัชนีหุ้น (SET Index) อาจไปได้ไม่ไกลหรือขาดความมั่นคง

เพราะ 2 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่มักกำหนดแนวโน้ม SET Index คือ ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic Growth) และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย (Earnings) ยังคงฟื้นตัวได้ช้า  อิงจากสองแบบจำลองของบล.ทิสโก้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง GDP และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนต่อ SET Index

บล.ทิสโก้ประเมินระดับ SET Index ที่เหมาะสมสำหรับไตรมาส 4/ 2564  อยู่ที่ 1,595 – 1,643 จุด ทำให้ Upside ตลาดในปีนี้ยังค่อนข้างจำกัด

แม้ความหวังสถานการณ์ระบาดและแผนการจัดหาวัคซีนที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนตลาดหุ้นรอบนี้สามารถปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 1,600 จุด จากกระแสเงินทุนไหลกลับ แต่ บล.ทิสโก้มองว่า SET Index อาจไปได้ไม่ไกลหรือขาดความมั่นคง เพราะ 2 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่มักกำหนดแนวโน้ม SET Index คือ ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย ยังคงฟื้นตัวได้ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาส 3/2564 ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาด

ขณะที่ไตรมาส 4/2564 จะขึ้นอยู่กับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเป็นหลัก โดย บล.ทิสโก้คาดการณ์ว่า GDP ปีนี้จะเติบโตเพียง 0.6% ประมาณการกำไรของตลาดโดยรวม (SET EPS) ปีนี้ที่อยู่ที่ 84.7 บาท ต่อหุ้น และปีหน้าที่ 95.5 บาทต่อหุ้น จึงทำให้ประเมินว่า SET Index ที่เหมาะสมสำหรับไตรมาส 4/ 2564  อยู่ที่ 1,595 – 1,643 จุด

สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในเดือนนี้ บล.ทิสโก้คาดว่า FED จะส่งสัญญาณลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ลง (QE Tapering) จากปัจจุบันที่อยู่ที่เดือนละ 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุมเดือนพฤศจิกายนและเริ่มต้นลดจริงในเดือนธันวาคมซึ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม ที่คาดว่าจะเริ่มต้นในเดือนมกราคมปีหน้า

อย่างไรก็ดี บล.ทิสโก้ไม่คิดว่าการทำ QE Tapering ของ FED ในครั้งนี้จะกดดันตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญเหมือนปี 2556  เนื่องจาก

  • FED มีการสื่อสารกับตลาดมาโดยตลอดในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา ว่าจะเริ่มมีการทำ QE Tapering เพียงแต่ยังไม่ชี้ชัดว่าจะเริ่มกระบวนการดังกล่าวเมื่อใด ซึ่งแตกต่างจากปี 2556 (“Taper Tantrum 2013”) ที่ไม่มีการส่งสัญญาณล่วงหน้ามาก่อน
  • แรงกดดันจากเงินทุนต่างประเทศไหลออกไม่น่าจะมากเหมือนปี 2556 เพราะปีนี้เม็ดเงินต่างชาติเป็นไหลออกอยู่แล้วกว่า 8.7 หมื่นล้านบาท ต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่ไหลออก 2.6 แสนล้านบาท
  • หุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก (Underperform) โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่เริ่มเกิดวิกฤต COVID-19 SET  Index ปรับตัวขึ้นเพียง 3% เทียบกับ MSCI World Index, MSCI EM Index และ MSCI Asia ex. Japan Index ที่ปรับตัวขึ้น 30%, 14% และ 18% ตามลำดับ เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าเผชิญความผันผวนมากนัก

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนสำหรับเดือนนี้ แนะนำให้นักลงทุนเน้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการทยอยเปิดเมือง (Re-opening) และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้

  • กลุ่มการเงิน แนะนำ AEONTS และ SCB
  • กลุ่มพาณิชย์ – ค้าปลีก แนะนำ COM7 และ CRC กลุ่มอื่นๆ แนะนำ STEC และ SPA นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้นส่งออกใน SET100 ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะ คือ  CPF และ HANA
  • หุ้นเด่นที่แนะนำในเดือน กันยายน คือ AEONTS, COM7, CPF, CRC, HANA, SCB, SPA และ STEC ด้านแนวรับสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,600 – 1,610 จุด และแนวรับต่อไปที่ 1,585 จุด แนวต้านสำคัญเดือนนี้อยู่ที่ 1,640 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,670, 1,690 – 1,700 จุด ตามลำดับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo