Stock

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้

ซิตี้แบงก์ เผย 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ จับตา แนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง แนะกระจายการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลากหลาย ชี้ปัจจัยเสี่ยงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้บรรยากาศเศรษฐกิจโลก และการลงทุน ยังคงมีความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2564 การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดการลงทุนผันผวน ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะ แนวโน้มเศรษฐกิจ ในครึ่งปีหลัง ที่ยังต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มเศรษฐกิจ

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ระบบเศรษฐกิจ และการลงทุนทั่วโลก จะได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ว่ามากหรือน้อยแค่ไหน แต่โลกความเป็นจริงทุกสิ่งก็ต้องยังคงต้องดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

เปิด 5 ปัจจัย นักลงทุนต้องรู้ รับแนวโน้มเศรษฐกิจ

ซิตี้แบงก์ เผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มการลงทุนครึ่งหลังของปี 2564 ที่จะมาช่วยให้นักลงทุน สามารถเตรียมความพร้อม และเป็นแนวทางก่อนตัดสินใจที่จะลงทุน ประกอบไปด้วย

1. ภาครัฐทั่วโลก ยังดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่อง

ในขณะนี้ธนาคารกลางทั่วโลก ยังคงดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายระดับต่ำต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบของการระบาด อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยจะไม่ต่ำแบบนี้ตลอดไป จะมีสัญญาณการปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน หากภาคธุรกิจต่าง ๆ กลับมาดำเนินการได้ใกล้เคียงปกติ และเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

2. ประเทศที่ฟื้นตัวได้เร็วจากโควิด-19 ได้เปรียบ

ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มากขึ้น แรงหนุนจากภาคธุรกิจบางส่วน ที่เริ่มกลับมาเปิดใหม่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการคลังที่มีประสิทธิภาพ ภาครัฐที่สนับสนุนการขยายตัวของภาคบริการในวงกว้างมากขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่เข้ามามีบทบาทในการช่วยชีวิตผู้คน

ซิตี้แบงก์

สิ่งเหล่านี้ ล้วนช่วยให้ระบบเศรษฐกิจในภาคต่าง ๆ กลับมาขับเคลื่อน จะเห็นได้จากตลาดหุ้นทั่วโลกที่นำโดยสหรัฐฯ และจีน เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 รวมถึงมูลค่าหุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 10% ในปี 2564 จนถึงปัจจุบัน

3. ให้น้ำหนักการลงทุนยั่งยืน (ESG)

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เริ่มหันมาให้ความสำคัญในการมุ่งสู่ โลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ดังนั้นการคว้าโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จึงเป็นแนวโน้มใหม่ที่น่าสนใจในระยะยาว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก จะส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ในอนาคต ตลอดจนนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า และประสิทธิภาพของพลังงานทางเลือก มีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างมากในไม่กี่ปีข้างหน้า

4. มองบวกลงทุนหุ้นหลากกลุ่มหลายภูมิภาค

แม้ภาพรวมการลงทุนยังคงเผชิญความท้าทายสูงต่อเนื่อง แต่ซิตี้ยังมีมุมมองบวกต่อหุ้น แนะกระจายการลงทุน ในกลุ่มอุตสาหกรรมหลากหลาย อาทิ เทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัลไลเซชัน และอสังหาริมทรัพย์ โดยให้น้ำหนักในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป ลาตินอเมริกา และสหราชอาณาจักร ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง เมื่อเทียบกับตลาดภูมิภาคอื่น ๆ

นอกจากนี้ ยังควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่เอเชีย ตราสารหนี้ไฮยิลด์ พันธบัตรสหรัฐอเมริกา

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์
ดอน จรรย์ศุภรินทร์

5. จับตาสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างใกล้ชิด

นักวิเคราะห์ซิตี้พบว่า มีโอกาสในการลงทุนระยะสั้น ในอุตสาหกรรมหลายประเภท ที่จะได้รับประโยชน์ จากการสิ้นสุดของการระบาดใหญ่ ของโควิด-19 อีกทั้งการลงทุนระยะยาวในอีกหลายอุตสาหกรรมที่จะเร่งตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจกดดันตลาดได้ เช่น ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนที่อาจเลวร้ายลง เนื่องจากการแข่งขันทางการค้าที่สำคัญระหว่างสองประเทศ ที่อาจมีนัยยะ และส่งผลกระทบ ตลอดจนการโจมตีทางไซเบอร์ บนโครงสร้างพื้นฐานของโลก ยังคงเป็นความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น นักลงทุน ควรจับตาประเด็นสำคัญของสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาผลประโยชน์พอร์ตลงทุนในระยะยาว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo