Stock

JTS ลงทุน 156.7 ล้าน ตั้งบริษัทขุดเหมืองบิตคอยน์

บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) (JTS) ระบุว่าจัดตั้งบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (“JasTel”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ จะดำเนินการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์ (Bitcoin Mining”)ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่

JTS  ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนี้เป็นอย่างดีมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเห็นว่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัทฯ

JTS

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท JasTel ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์  โดยมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดจำนวน 156.7 ล้านบาท ซึ่งอุปกรณ์หลักประกอบด้วยเครื่องขุดบิตคอยน์จำนวน 500 เครื่อง ซึ่งได้ทยอยสั่งซื้อและจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 

บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ถือเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทตามนัยของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) และตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศเรื่องรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”) โดยมีขนาดรายการตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนเท่ากับ ร้อยละ 11.66 เมื่อใช้ฐานในการคำนวณจากงบการเงินรวมของบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งผ่านการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีของบริษัทแล้ว  บริษัทฯ ไม่มีรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์อื่นใดที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา จึงไม่เข้าเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน แต่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นพัฒนาการใหม่ จึงแจ้งมายังตลท. เพื่อทราบต่อไป

บริษัทฯ จะใช้นโยบายทางการบัญชีในการบันทึก Bitcoin  ที่ขุดได้เป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตนและรายได้ด้วยราคาทุน (มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ได้มา) หักค่าเผื่อการด้อยค่าสินทรัพย์ โดย Bitcoin ที่ขุดได้จะนำมาจำหน่ายบางส่วนและเก็บไว้บางส่วน โดยรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2564  ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้รวม โดยปัจจุบันธุรกิจการขุดเหมืองบิตคอยน์ไม่ต้องแจ้งขออนุญาตจากหน่วยงานใดๆ รวมถึง Bitcoin ยังไม่ถือเป็นเงินสกุลหนึ่งในประเทศไทย และอยู่นอกเหนือกฎข้อบังคับต่างๆ ของการแลกเปลี่ยนเงินตราจึงไม่ต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การขุดบิตคอยน์นั้น เป็นการใช้พลังประมวลผลของเครื่องขุดเพื่อเพิ่มข้อมูลชุดใหม่เข้าไปในระบบ Blockchain ซึ่งจะได้ผลตอบแทนออกมาเป็นบิตคอยน์ โดยผลตอบแทนที่ได้ขึ้นกับสัดส่วนของพลังงานการประมวลผลของบริษัทฯ เทียบกับพลังประมวลผลรวมทั่วโลก (Total Hash Rate) ณ ขณะนั้น ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา 

บริษัทฯ มีต้นทุนการดำเนินการหลักเป็นค่าไฟฟ้าซึ่งคงที่ และแปลผันตรงกับจำนวนเครื่องขุด โดยธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงด้านการรับรองจากกฎหมายและหน่วยงานที่จะกำกับในอนาคต และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของบิตคอยน์ซึ่งอาจมีการผันผวน

บริษัทฯ ตระหนักดีและจะระมัดระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการลงทุน และผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น

สำหรับการขยายกำลังการขุดบิตคอยน์เพิ่มเติมอีก 5,000 เครื่องในอนาคตนั้น บริษัทฯ จะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาก่อน หากเข้าเกณฑ์ที่มีนัยสำคัญตามประกาศ รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ฯบริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ในประกาศดังกล่าวพร้อมทั้งแจ้งต่อ ตลท.

ข่าวข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo