ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น ท่ามกลางการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ที่เจอกับแรงเทขายอย่างหนัก เพราะความกังวลในเรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,838.34 จุด พุ่งขึ้น 416.41 จุด หรือ 1.21%ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,361.34 จุด ปรับขึ้นมา 40.52 จุด หรือ 0.94% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,679.98 จุด ทะยานขึ้น 120.20 จุด หรือ 0.83%
ตลาดหุ้นสหรัฐได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันนี้ ซึ่งช่วยคลายความวิตก เกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะหุ้นที่ร่วงลง เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.)สามารถฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ กลุ่มสายการบิน และธนาคารต่างปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงในวันนี้ ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะลงนามในคำสั่งพิเศษของฝ่ายบริหาร เพื่อสกัดพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจแบบผูกขาดตลาดของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 14 กรกฎาคม และต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 15 กรกฎาคม
ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ และอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
การแถลงของนายพาวเวลในสัปดาห์หน้า ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเขาอาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากที่รายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนมิถุนายน ระบุว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงิน QE พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมถึง 1 ปี และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีดังกล่าว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลด QE ในเดือนมกราคม 2565 โดยจะปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 20,000 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่เฟดดำเนินมาตรการ QE วงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งจะทำให้เฟดใช้เวลา 6 เดือนในการปรับลด QE จนเหลือ 0 หมายความว่าเฟดจะยุติการทำ QE ในช่วงกลางปี 2565 และเฟดจะพักการดำเนินการเป็นเวลา 1 ปีเพื่อให้ตลาดปรับตัว ก่อนที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566