แนวโน้มหุ้น สัปดาห์หน้าแกว่ง แนวรับที่ 1,550-1,570 จุด สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศยังกดดัน ขณะที่ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์ถัดไป (5-9 ก.ค.) มีแนวรับที่ 1,570 และ 1,550 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,600 และ 1,615 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศ และประเด็นการเมืองภายในประเทศ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนมิ.ย. และรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 15-16 มิ.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนมิ.ย. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของจีน ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ของยูโรโซน
หุ้นไทยผันผวน ก่อนจะร่วงลงแรงช่วงปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,578.49 จุด ลดลง 0.26% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 78,743.86 ล้านบาท ลดลง 1.53% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.39% มาปิดที่ 505.52 จุด
กรอบการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยเป็นไปอย่างจำกัด เพราะแม้จะมีปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐที่เยียวยาลูกจ้างและผู้ประกอบการในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดการทำกิจกรรมบางประเภท แรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มธนาคารก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 และการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ที่ช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทยให้ขยับขึ้นในระหว่างสัปดาห์
แต่ก็มีปัจจัยลบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น แผนการฉีดวัคซีนที่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายและแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติคอยถ่วงหุ้นไทยตลอดสัปดาห์นี้
ด้านค่าเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (5-9 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.90-32.50 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทอ่อนค่าผ่านแนว 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 14 เดือนที่ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงท่ามกลางความกังวลต่อการควบคุมสถานการณ์โควิดในประเทศ ประกอบกับมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไทยที่บันทึกยอดขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
ขณะที่เงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด อาทิ ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.
ในวันศุกร์ (2 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.19 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 31.77 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 มิ.ย.)
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- หุ้นปิดลบ 15.26 จุด ต่างชาติเทขายหนักกว่า 4 พันล้าน ‘โควิดลาม-การเมือง’กดดัน
- คนไทยมอง ‘โควิด-19’ ทำลายเศรษฐกิจ รัฐแก้ไม่ถูกทาง จี้ ‘นักการเมือง’ คิดถึงประชาชนก่อน
- อัพเดทสถานการณ์โควิด วันที่ 4 กรกฎาคม 2564