Stock

‘ดาวโจนส์’ รุ่ง ดีดตัวกว่า 500 จุด นักลงทุนแห่ซื้อหุ้นได้ประโยชน์จาก ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ฟื้นตัว

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (21 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แรงหนุนจากการเข้าช้อนซื้อหุ้นในกลุ่มการเงิน และพลังงาน ที่มีแนวโน้มจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,806.51 จุด พุ่งขึ้น 516.43 จุด หรือ 1.55% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,217.92 จุด ปรับขึ้น 51.47 จุด หรือ 1.24% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,128.73 จุด บวก 98.35 จุด หรือ 0.70%

หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงหุ้นพลังงานที่ดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคาร เทคโนโลยี และสายการบิน โดยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อ เพราะเป็นกลุ่มที่นักลงทุนมองว่า จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง

Stocksbitcoin ๒๑๐๖๒๑

ดัชนีดาวโจนส์ปิดดิ่งลงกว่า 500 จุดเมื่อวันศุกร์ และร่วงลง 3.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงรายสัปดาห์รุนแรงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ตลาดยังจับตาดูมุมมองต่อเศรษฐกิจ ของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่มีกำหนดจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 01.00 น.ของวันที่ 23 มิถุนายนตามเวลาไทย

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และการใช้นโยบายการเงินของเฟด ซึ่งรวมถึงการปล่อยเงินกู้ฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับวิกฤติโควิด-19

การเคลื่อนไหวข้างต้น ยังจะเกิดขึ้น หลังจากที่ตลาดการเงินเกิดความตื่นตระหนกจากการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์เดิมถึง 1 ปี

นอกจากนี้ กรรมการเฟดยังได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดเตรียมชะลอการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายรายในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงินของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในวันนี้เวลา 13.45 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 00.45 น.ของวันที่ 22 มิถุนายน ตามเวลาไทย โดยนายไบเดนจะหารือกับนายพาวเวล และนางเยลเลน รวมทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายรายที่ห้องทำงานรูปไข่ เกี่ยวกับสภาวะล่าสุดของระบบการเงิน และสถาบันการเงินของสหรัฐ รวมทั้งความเสี่ยงทางการเงิน ที่เกิดจากปัญหาโลกร้อน และการดำเนินการของหน่วยงานรัฐบาล ในการช่วยเหลือให้ภาคธุรกิจ และประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น

นอกจาก นายพาวเวล และนางเยลเลนแล้ว เจ้าหน้าที่ซึ่งจะเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ ยังรวมถึงประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ, ประธานคณะกรรมการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งประธานสำนักงานคุ้มครองทางการเงินต่อผู้บริโภค

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +0.29 ในเดือนพฤษภาคม แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.32 จากระดับ -0.09 ในเดือนเมษายน  โดยขาขึ้นของดัชนีได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การบริโภคปรับตัวลง

ดัชนี CFNAI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน 85 รายการ โดยดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นบวกจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าแนวโน้ม ขณะที่ดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นลบจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้ม

ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน 30 รายการปรับตัวลงในเดือนพฤษภาคม  ขณะที่ 55 รายการมีค่าเป็นบวก ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนี CFNAI ถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดในการประเมินความเสี่ยงในการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo