Stock

‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 100 จุด ขาดปัจจัยหนุนใหม่ จับตาประชุมเฟด สัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (11 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง จากแรงเทขายทำกำไร หลังข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมา ทำให้นักลงทุนพากันคลายวิตกเกี่ยวกับเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเพิ่มความเข้มงวด ในนโยบายการเงินเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,363.36 จุด ลดลง 102.88 จุด หรือ 0.30% ดัชนีเอสแอนด์ พี 500 ที่ 4,234.69 จุด ลดลง 4.49 จุด หรือ 0.11%และดัชนีแนสแด็กที่ 14,025.52 จุด บวก 5.18 จุด หรือ 0.04%

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงรักษาจุดยืน ในการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างมาก ในการประชุมวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้ โดยเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน

Stocksbitcoin ๒๑๐๔๑๙ 0

อย่างไรก็ดี คาดว่าเฟดจะเริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปี ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ และจะเริ่มดำเนินการปรับลด QE ในเดือนธันวาคม หรือต้นปีหน้า ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566

การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ จะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว เฟดต้องจัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งแรก ในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อปีที่แล้ว โดยได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ ซึ่งเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ

สำหรับในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ คาดว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาส่งสัญญาณให้ตลาดการเงินเตรียมตัวพร้อมรับการถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดก่อนหน้านี้

ที่ผ่านมา ประเทศในตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนามักได้รับความเสี่ยงสูงสุดจากการที่เฟดใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน และหากเฟดมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินด้วยการปรับลด QE และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็จะส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลกลับไปยังสหรัฐ และกระทบอย่างหนักต่อตลาดเกิดใหม่ดังที่เคยเกิดขึ้นในปี 2541 และ 2556

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo