ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (1 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น ในเรื่องของค่าเงินเฟ้อ ประกอบกับข้อมูลทางเศรษฐกิจ ที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,663.22 จุด ทะยานขึ้นมา 133.77 จุด หรือ 0.38% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,206.46 จุด ขยับขึ้น 2.35 จุด หรือ 0.06% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,723.93 จุด ลดลง 24.81 จุด หรือ 0.18%
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ค.) ว่า ประชากรสหรัฐเกินครึ่ง ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส โดยผู้ใหญ่กว่า 62% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 12,663 รายในวันเสาร์ (29 พ.ค.) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563
มุมมองบวกเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้น เช่น หุ้นกลุ่มสายการบิน และหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้นมาถึง 3.09% ส่วนหุ้นสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 2.23% และหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ปรับตัวขึ้น 1.76%
เช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน อย่าง เชฟรอน และเอ็กซอน โมบิล ที่ราคาหุ้นทะยานขึ้นมา 2.58% และ 3.15% ตามลำดับ
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย เดือนพฤษภาคม ของ ไอเอชเอส มาร์กิต การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนเมษายน และดัชนีภาคการผลิตเดือนพฤษภาคม จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
ล่าสุด ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 61.2 ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจากระดับ 60.7 ในเดือนเมษายน แรงหนุนจากยอดคำสั่งซื้อใหม่ ยอดการผลิต และการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อผลิตสินค้าให้ทันความต้องการที่สูงขึ้น โดยการที่ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว
อย่างไรก็ดี การขาดแคลนวัตถุในการผลิต ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และอุปสรรคในการขนส่งสินค้า ได้เข้ามาเป็นปัจจัยกดดันภาคการผลิตในระดับหนึ่ง
ขณะที่ ไอเอชเอส มาร์กิต บริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 62.1 ในเดือนพฤษภาคม จากระดับ 60.5 ในเดือนเมษายน และยังมากกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 61.5 ด้วย
ดัชนี PMI ดีดตัวขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม 2550 และดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว ของภาคการผลิตของสหรัฐ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตาตลาดป่วนรอบใหม่ นักลงทุนเริ่มกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น
- คาดเฟดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% ไม่หวั่นเงินเฟ้อพุ่ง เพื่อประคองเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว
