ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเพิ่มขึ้น จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีขยับลง และหนุนราคาทองคำขึ้น 7.8 ดอลลาร์ ขณะที่น้ำมันพุ่งขึ้นจากการคาดการณ์ความต้องการเพิ่ม แม้มีแนวโน้มว่าอิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมัน
ดาวโจนส์ ปิดบวก 186.14 จุด หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัว หนุนนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายวิตกกังวลหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ระบุว่านักลงทุนวิตกกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐมากเกินไป
- ดาวโจนส์ปิดที่ 34,393.98 จุด เพิ่มขึ้น 186.14 จุด หรือ 0.54%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,197.05 จุด เพิ่มขึ้น 41.19 จุด หรือ 0.99%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,661.17 จุด เพิ่มขึ้น 190.18 จุด หรือ 1.41%
ทองคำได้แรงหนุน เงินดอลลาร์อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขยับลง โดยทองคำในตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,884.5 ดอลลาร์/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2564
ราคาน้ำมันปิดเพิ่มขึ้น แม้ว่ามีแนวโน้มอิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันได้รับปัจจัยบวกจากข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอินเดียมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้น
- น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.47 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 66.05 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2564
- น้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เพิ่มขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 68.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- ‘ราคาน้ำมันพุ่ง-บิตคอยน์ฟื้น’ หนุน ‘ดาวโจนส์-แนสแด็ก’ ทะยานเกือบ 200 จุด
- ราคาทองในประเทศปิดวันนี้ ปรับขึ้น-ลง 4 ครั้ง ลดลง 50 บาท
- ปตท. คาดราคาน้ำมันแนวโน้มลดลง จากอิหร่านมีแนวโน้มกลับมาส่งออก