ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงลงอย่างหนัก จากการที่นักลงทุนพากันทิ้งสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความกังวลว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ ต้องเพิ่มความเข้มงวดในนโยบายการเงินเร็ว ๆ นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,637.63 จุด ร่วงลง 423.03 จุด หรือ 1.24% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,083.86 จุด ร่วงลง 43.97 จุด หรือ 1.07% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,192.55 จุด ลดลง 111.08 จุด หรือ 0.83%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่แข็งแกร่ง ประกอบกับสัญญาณถึงการขาดแคลนแรงงาน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้นักลงทุนพากันวิตกมากขึ้น ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักในตลาด แม้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะออกมายืนยันว่า การทะยานขึ้นของราคาสินค้า เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
นักลงทุน ยังจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 27-28 เมษายนที่ผ่านมา ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด
นอกจากนี้ ยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพฤษภาคม จาก เฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นจากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสอง
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวลง ส่งผลให้ดัชนีแนสแด็ก ร่วงลงกว่า 1% แรงกดดันจากบิทคอยน์ ที่ทรุดหนักเกือบ 30% ใกล้หลุดระดับ 30,000 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดิจิทัล
บิตคอยน์ดิ่งลง 29.2% สู่ระดับ 30,600 ดอลลาร์ หรือราว 963,900 บาท ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์เคยทะยานเหนือระดับ 64,400 ดอลลาร์ ทะลุ 2,000,000 บาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในกลางเดือนเม.ย. ขานรับ Coinbase Global Inc. ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq
ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา ซึ่งมีรายงานว่าถือครองบิทคอยน์อยู่ถึง 2,500 ล้านดอลลาร์ ร่วงลง 4% ในการซื้อขายวันนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กูรูเห็นพ้อง ‘เศรษฐกิจโลก’ ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ฟื้นตัวจากโควิด – 19
- หุ้นปิดบวก 1.35 จุด ต่างชาติเทขายอีกวัน 2,259 ล้าน ตลาดไร้ปัจจัยหนุน
- ปตท. กำไรไตรมาสแรกปีนี้ 3.26 หมื่นล้าน เพิ่มกว่า 100% กำไรสต๊อกน้ำมัน 1.2 หมื่นล้าน
