Stock

ลุ้น’เงินติดล้อ’เข้าเทรด 10 พ.ค. มูลค่าไอพีโอ 8.46 หมื่นล้าน P/E ที่ 35.03 เท่า

บมจ. เงินติดล้อ เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ 10 .. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ราคา IPO ที่ 84,642.94 ล้านบาท โดยใช้
ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “TIDLOR”

บมจ. เงินติดล้อ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TIDLOR” ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2564  

TIDLOR เป็นบริษัทในกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน) ภายใต้ชื่อ “เงินติดล้อ”

TIDLOR มีธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยที่จำหน่ายแก่ลูกค้ารายย่อย ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนที่หลากหลาย ครบวงจร และช่องทางการขายและบริการที่ครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ณ ธ.ค. 2563 มี 1,076 สาขา ครอบคลุม 74 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ารายย่อยในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำรงชีพ 

TIDLOR มีทุนชำระแล้ว 8,580.24 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.70 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก 1,043.54 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุน 210.82 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเดิมของ BAY 284.14 ล้านหุ้น และ Siam Asia Credit Access Pte. Ltd. (SACA) 412.47 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 136.11 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลทั่วไปวันที่ 22-26 เมษายน 2564 และผู้ลงทุนสถาบันวันที่ 28-30 เมษายน 2564 ในราคาหุ้นละ 36.50 บาท  คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 38,089.31 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมูลค่าระดมทุน 7,694.81 ล้านบาท

มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 84,642.94 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เงินติดล้อ กล่าวว่า TIDLOR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต โดยมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปขยายธุรกิจทั้งด้านสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันและนายหน้าประกันภัย ใช้พัฒนาโครงสร้างด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ปรับโครงสร้างเงินทุนโดยการชำระคืนหนี้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

TIDLOR มุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจนายหน้าประกันภัยสำหรับรายย่อย เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียของเงินติดล้อในทุกระดับ ด้วยความตั้งใจที่จะส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนให้เข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม โปร่งใส และเป็นธรรม

TIDLOR

TIDLOR มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) BAY ถือหุ้น 30.00% 2) SACA ถือหุ้น 25.00% และ 3) UBS SECURITIES PTE LTD. ถือหุ้น 8.11% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากวิธีการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหุ้นสามัญของผู้ลงทุนสถาบันในแต่ละระดับราคา (Book building) คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E Raito) ที่ 35.03 เท่า โดยคำนวนจากกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.04 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ TIDLOR มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังจากการหักภาษีและจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนด

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo