ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (5 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น จากการฟื้นตัวของหุ้นตัวใหญ่ในตลาด หลังเจอแรงเทขายอย่างหนักไปเมื่อวานนี้ (4 พ.ค.) ทั้งยังได้แรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน เดือนเมษายน ทะยานสูงขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,284.58 จุด ปรับตัวขึ้นมา 151.55 จุด หรือ 0.44% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,186.86 ขยับขึ้น 22.20 จุด หรือ 0.53% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 13,719.43 จุด บวก 85.92 จุด หรือ 0.63%
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี รวมถึง แอปเปิ้ล ไมโครซอฟท์ อเมซอนดอทคอม เฟซบุ๊ก และอัลฟาเบต ปรับตัวสูงขึ้นราว 0.2-1.3%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความรู้สึกด้านบวก เกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจรอบใหม่ ได้กลับคืนสู่ตลาดอีกครั้ง และเป็นแรงหนุนการเคลื่อนไหวของตลาดในวานนี้ และนักลงทุนต่างตระหนักว่า แรงเทขายเมื่อวานนี้ อาจเป็นเรื่องที่ดูเกินจริงไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขาย ยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐ ร้อนแรงเกินไป อันเป็นผลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ดี นางเยลเลนกล่าวชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ตนไม่ได้คาดการณ์หรือให้คำแนะนำว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่คำกล่าวก่อนหน้านี้ของนางเยลเลนส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงวานนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งนโยบายปรับขึ้นอัตราภาษีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 742,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุด นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 800,000 ตำแหน่ง
ADP ยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนมีนาคม เป็นเพิ่มขึ้น 565,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานเพิ่มขึ้น 517,000 ตำแหน่ง ภาคบริการมีการจ้างงาน 636,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงาน 106,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้(7 เม.ย) กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร พุ่งขึ้นแตะระดับ 1,000,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.8%
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 647,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.0% จากระดับ 6.2% ในเดือนกุมภาพันธ์
ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 62.7 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 63.7 ในเดือนมี.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 64.3
การชะลอตัวของดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานดีดตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 64.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2552
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว
- จับตาตลาดป่วนรอบใหม่ นักลงทุนเริ่มกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น
- ‘คลัง’ เตรียมเม็ดเงิน 3 แสนล้านอัดเข้าเศรษฐกิจ พิจารณาเยียวยาโควิดรอบใหม่
