ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (4 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง จากแรงเทขายทำกำไร หุ้นที่ทะยานสูงขึ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่ทำให้แนสแด็ก ดิ่งลงกว่า 2 %
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,974.75 จุด ร่วงลง 138.48 จุด หรือ 0.41% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,143.52 จุด ลดลง 49.14 จุด หรือ 1.17% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 13,538.15 จุด ดิ่งลง 356.97 จุด หรือ 2.57%
วันนี้ นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หุ้นที่ทะยานสูงขึ้น โดยภาวะการซื้อขายเป็นไปในลักษณะหมุนเวียนกลุ่มลงทุน (sector rotation) จากการที่นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นเติบโต (growth stocks) เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ยังคงเข้าซื้อหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ
หุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มวัสดุ ปรับตัวขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นเติบโต อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ปรับตัวลง
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตัวใหญ่ๆ ต่างปรับตัวลง โดยหุ้นไมโครซอฟต์ปรับตัวลดลง 0.65% หุ้นอัลฟาเบทปรับตัวลดลง 1.41% หุ้นแอปเปิลปรับตัวลดลง 2.33% หุ้นแอมะซอนปรับตัวลดลง 0.93% และหุ้นเฟซบุ๊กปรับตัวลดลง 1.25%
นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า นักลงทุนเริ่มมีความระมัดระวังในการลงทุนกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่ผ่านมาได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยหันไปลงทุนกับหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงานแทน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว
- จับตาตลาดป่วนรอบใหม่ นักลงทุนเริ่มกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น
- ‘คลัง’ เตรียมเม็ดเงิน 3 แสนล้านอัดเข้าเศรษฐกิจ พิจารณาเยียวยาโควิดรอบใหม่