Stock

‘ดาวโจนส์’ พุ่งเกือบ 300 จุด ข้ามเส้น 34,000 จุด ขานรับ ‘สหรัฐ’ เปิดเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งขึ้นเกือบ 300 จุด แรงหนุนจากขาขึ้นของหุ้น ที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งของแดนอินทรี ประกอบกับการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหลายบริษัท ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,166.05 จุด ทะยานขึ้น 291.20 จุด หรือ 0.86% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,198.15 จุด เพิ่มขึ้น 16.98 จุด หรือ 0.41% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,920.84 จุด ลดลง 41.84 จุด หรือ 0.30%

Stocksbitcoin ๒๑๐๕๐๓

หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ และสายการบิน รวมทั้งหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐต่างดีดตัวขึ้น เช่นเดียวกับหุ้น “เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์” ที่ทะยานขึ้นมา 1% หลังจากที่กลุ่มบริษัทของวอร์เรน บัฟเฟตต์ รายงาน รายได้จากการดำเนินงาน ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ทะยานขึ้นถึง 20% พร้อมเดินหน้าซื้อคืนหุ้นบริษัทจำนวนมาก

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีก ก็ทะยานขึ้นเช่นกัน ท่ามกลางความหวังถึงการฟื้นตัว จากการที่สหรัฐกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยราคาหุ้น แก็ป เชนค้าปลีกเสื้อผ้าชื่อดัง พุ่งขึ้นมากกว่า 4%

วันนี้ ถือเป็นการซื้อขายวันแรกของเดือนพฤษภาคม ซึ่งที่ผ่านมา นักลงทุนสหรัฐมักมีคำกล่าวกันว่า “Sell in May and Go Away” หรือ “ขายหุ้นในเดือนพฤษภาคม และรีบออกจากตลาดไป” ซึ่งเป็นการแนะนำให้นักลงทุนเทขายหุ้น เพื่อทำกำไรจากการพุ่งขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน  ก่อนที่จะถอนตัวอยู่นอกตลาด ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม

สถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท มักมีผลตอบแทนค่อนข้างต่ำในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม  โดยนับตั้งแต่ปี 2489 พบว่า ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ให้ผลตอบแทนในเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เฉลี่ยสูงถึง 6.8% เมื่อเทียบกับระดับ 1.6% ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปในปีนี้ โดยตลาดได้อานิสงส์จากการที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ต่อสภาคองเกรส รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

ขณะที่ มีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง และนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และจะยังไม่ปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตร ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้เศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นก็ตาม

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองเห็นสัญญาณด้านบวก จากฝั่งยุโรป ช่วยหนุนความเชื่อมั่นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ของกลุ่มประเทศยูโรโซน โดยในวันนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ยังได้เสนอที่จะเปิดทางให้นักเดินทาง ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบแล้ว สามารถเดินทางเข้ายุโรปได้ในทุกกรณี

อย่างไรก็ดี ตลาดยังรอฟังสุนทรพจน์ของนายพาวเวล ประธานเฟด ที่มีกำหนดขึ้นพูดในงานสัมมนาทางเศรษฐกิจ ที่จัดขึ้นทางออนไลน์ เพื่อดูความเห็นล่าสุของเขา ถึงทิศทางการดำเนินงานของเฟด หลังจากที่นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า ถึงเวลาแล้ว ที่เฟดควรหารือเรื่องการลดระดับการเข้าซื้อสินทรัพย์ในตลาด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo