ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (21 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ร่วงลง 2 วันติดต่อกัน แรงหนุนจากขาขึ้นของหุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,965.71 จุด ทะยานขึ้นมา 144.41 จุด หรือ 0.43% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,153.67 จุด ปรับขึ้น 18.73 จุด หรือ 0.45% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 13,863.54 จุด บวก 77.28 จุด หรือ 0.56%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ต่างปรับตัวขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณว่า เศรษฐกิจกำลังเป็นไปด้วยดี ในเส้นทางการฟื้นตัว หลังหลายบริษัทรายงานผลประกอบการรายไตรมาสอย่างแข็งแกร่ง
สถานการณ์ดังกล่าว ช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ รวมถึง สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ ที่ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมา 2 % หลังจากดิ่งลงไปถึง 8.5% เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) จากการรายงานผลประกอบการขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน และระบุว่า ยังต้องรออีกนานกว่า การเดินทางระหว่างประเทศจะฟื้นตัวขึ้นมา
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น “เน็ตฟลิกซ์” ดิ่งลงถึง 7.1% หลังจากเมื่อวานนี้ บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2564 ที่แสดงให้เห็นว่า การเติบโตของจำนวนสมาชิกชะลอตัวลง หลังจากที่ในช่วงโควิดระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว บริษัทมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างมาก
การร่วงลงของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ยังกลายเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ๆ อย่าง แอปเปิ้ล อเมซอนดอทคอม เฟซบุ๊ก และเทสลา ร่วงลงราว 0.3%-1.8%
วันนี้ ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 19 โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วัน หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมีนาคม จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนมีนาคม, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนเมษายน จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนเมษายน จากมารฺ์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนมีนาคม
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 เมษายนนี้ หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กรุงไทย’ คาดกรณีที่ดีที่สุด ‘เศรษฐกิจไทย’ อาจขยายตัว 3%
- มาตรการเข้ม!! ‘บิ๊กตู่’ มั่นใจคุมโควิดอยู่ พร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อเนื่อง
- ผ่อนกฏฟื้นเศรษฐกิจ อาเซียน เพิ่มบัญชีสินค้าจำเป็น ห้ามใช้มาตรการกีดกัน
