ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ ตัดสินใจไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,753.42 จุด ลดลง 108.88 จุด หรือ 0.33% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,923.09 จุด บวก 7.63 จุด หรือ 0.19% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,226.24 จุด ขยับขึ้น 110.07 จุด หรือ 0.84%
หุ้นกลุ่มธนาคารต่างดิ่งลง หลัง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่า จะไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะหมดอายุในสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่ใช้กันมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
โครงการดังกล่าวอนุญาตให้ธนาคารต่าง ๆ สามารถลดทุน หากมีการถือครองพันธบัตร และตราสารหนี้อื่น โดยธนาคารไม่ต้องนำมูลค่าของพันธบัตร และเงินฝาก ที่ฝากไว้กับเฟด เข้ารวมในการคำนวณ leverage ratio
เฟดหวังว่า มาตรการผ่อนคลายเงินทุนดังกล่าว จะช่วยสร้างเสถียรภาพต่อตลาดพันธบัตร ในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 และช่วยหนุนให้ภาคธนาคาร ปล่อยเงินกู้มากขึ้น หลังจากที่ธนาคารต่าง ๆ พากันขายพันธบัตร เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโควิด-19
การซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ ยังถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้น ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ขานรับข่าวที่ว่าเฟดจะไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์ โดยดีดตัวเหนือ 1.7% หลังจากชะลอตัวลงในช่วงแรก
นอกจากนี้ ราคาหุ้นไนกี้ อิงค์ ผู้ผลิตเสื้อผ้ากีฬาชั้นนำ ที่ร่วงลงมากกว่า 4% ยังเป็นตัวฉุดดาวโจนส์ให้ร่วงลง หลังบริษัททำยอดขายรายไตรมาส ได้น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ เนื่องจากมีปัญหาด้านการจัดส่ง และยอดขายตามร้านสาขาต่าง ๆ ซบเซาหนัก เพราะการระบาดของไวรัสโวิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พาวเวล’ ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ไร้เสถียรภาพมาก ส่งสัญญาณคง ‘ดอกเบี้ยต่ำ’ ถึงปี 66
- ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ทรุดหนักสุดรอบกว่า 70 ปี จีดีพีไตรมาส 2 หดตัว 32.9%
- ‘พาวเวล’ ให้คำมั่น ‘ทำทุกอย่าง’ หนุนเศรษฐกิจสหรัฐ ‘เฟด’ ตรึงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม