ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (3 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์ ยังเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก แต่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน จากความผิดหวังในข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนเดือนกุมภาพันธ์ ที่ทำให้ความหวังเกี่ยวกับเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ลดน้อยลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 31,453.04 จุด ขยับขึ้นมา 61.52 จุด หรือ 0.20% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,851.90 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ 0.48% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 13,198.27 จุด ร่วงลง 160.51 จุด หรือ 1.20%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากพุ่งแตะระดับ 1.6% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 117,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง โดยการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ได้แรงหนุนจากภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิต และก่อสร้างปรับตัวลง
นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนมกราคม เป็นเพิ่มขึ้น 195,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานเพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ หลังเมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 49,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.3% ในเดือนมกราคม ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 6.7%
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปิดเผยว่า ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่ จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกคนภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเร็วกว่ากำหนดถึง 2 เดือน โดยการฉีดวัคซีนในวงกว้าง จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดว่า กระบวนการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง
ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มีนาคม หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวในแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกกว่า 3 ปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คลังคาดปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.8% เล็งออกมาตรการกระตุ้นเพิ่ม!
- กลุ่ม CLMV ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ ฟื้นตัวเด่นสุด การเมืองฉุด ‘เมียนมา’ รั้งท้าย
- ‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ คาดปี 64 ต่างชาติเที่ยวไทย 4.5-7.0 ล้านคน จับตาโควิด!
