ดาวโจนส์ทะยาน 475.57 จุด ได้แรงหนุนจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 หลังเริ่มฉีดวัคซีน ขณะที่ทองคำร่วงหนัก 30.5 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย โดยนักลงทุนเริ่มมั่นใจประสิทธิภาพของวัคซันโควิด-19 หลังจากรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยสหรัฐเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563
ตลาดยังได้แรงหนุนจากรัฐบาลของนายโจ ไบเดน เร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะประกาศในเร็ว ๆ นี้ ทำให้นักลงทุนคาดว่าเศรษบกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 30,687.48 จุด เพิ่มขึ้น 475.57 จุด หรือ 1.57%
- ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,826.31 จุด เพิ่มขึ้น 52.45 จุด หรือ 1.39%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,612.78 จุด เพิ่มขึ้น 209.38 จุด หรือ 1.56%
ทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์ จากแรงเทขายโยกเงินเข้าตลาดหุ้น ขณะที่ตลาดโภคภัณฑ์เผชิญแรงกดดัน จาก Chicago Mercantile Exchange (CME) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาฟิวเจอร์ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศขึ้นอัตรา maintenance margin เพื่อสกัดการปั่นราคาของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาด โดยเฉพาะสัญญาล่วงหน้าโลหะเงิน
- ทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ร่วงลง 30.5 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 1,833.4 ดอลลาร์/ออนซ์
- โลหะเงิน ลดลง 3.016 ดอลลาร์ หรือ 10.25% ปิดที่ 26.402 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงตามทิศทางราคาสัญญาโลหะเงิน หลังจาก CME ประกาศปรับอัตรา maintenance margin สำหรับสัญญา Comex 5000 Silver Futures โดยปรับเพิ่มขึ้น 17.9% เพื่อสกัดการปั่นราคาของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาด
เงินดอลลาร์แข็งค่า ยังกดดันราคาทองคำให้ร่วงลง โดย ดัชนีดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.24% สู่ระดับ 91.2011
น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่ยังคงดำเนินการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง
- น้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 54.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
- น้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) พุ่งขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 57.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
อ่านข่าวเพิ่มเเติม:
- ‘ดาวโจนส์’ พุ่งเกิน 500 จุด คาด ‘อเมซอน-อัลฟาเบท’ รายได้แกร่ง คลายกังวล ‘GameStop’
- อัพเดทสถานการณ์ ‘โควิด’ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564
- ‘หมอธีระ’ เผยทั่วโลกฉีด ‘วัคซีนโควิด’ แล้ว 55.34 ล้านคน
