ส่อง 3 แรงหนุนหุ้น BCP เปล่งประกาย ท่ามกลางค่าการกลั่นที่ยังผันผวนหนัก!
ท่ามกลางปีที่ท้าทายอีกปีของอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันในปี 2568 ทว่ากลับมีหนึ่งหุ้นโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่ยังคงเป็น Bullish ในสายตานักวิเคราะห์ หุ้นที่ว่านั้นคือ BCP หรือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและการค้าน้ำมัน และธุรกิจการตลาด รวมถึงลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ เป็นต้น
จุดเด่นของ BCP คือ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายสำคญในธุรกิจการตลาดน้ำมันในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาด 28.9% ในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในปี 2567 พร้อมทั้งยังเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันที่มีหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ (CDU) กำลังการผลิต 120 kbd และหลังจากเข้าลงทุนใน BSRC ก็ทำให้บริษัมมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมดเพิ่มเป็น 294 kbd
ส่วนคำถามที่ว่าทำไม BCP ยังคงเป็นหุ้นที่ถูกแนะนำโดยนักวิเคราะห์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมการกลั่น บทความนี้สรุปมาให้แล้วจากมุมมองของ บล. อินโนเวส เอกซ์ ที่มองว่าราคาหุ้น BCP ปรับตัวเหนือกว่ากลุ่ม แต่ Valuation ยังไม่แพงที่ P/E ปี 2568 ระดับ 6.4 เท่า จึงแนะนำ Outperform ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 47 บาทต่อหุ้น ด้วยปัจจัย ดังนี้
ปัจจัยกระตุ้น 1 ผลประกอบการจะฟื้นตัวในปี 2568
นักวิเคราะห์คาดว่า BCP จะสามารถคงปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นไว้ในระดับสูงในปี 2568 เพื่อเพิ่มผลประโยชน์จาก synergy ของกลุ่มให้สูงที่สุด แม้ว่ากำไรไตรมาส 1/68 ของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันอาจจะได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่นที่ลดลง แต่ผู้บริหารวางแผนเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นของโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 2 แห่งให้สูงที่สุดหลังจากปิดซ่อมบำรุงตามแผนในปี 2567
ดังนั้น คาดปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นของ BCP และ BSRC รวมกันจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 277 kbd อัตราการใช้กำลังการกลั่น 94% ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจการตลาดภายใต้แบรนด์ “บางจาก” เนื่องจาก BCP จะขยายสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 28.9% ณ สิ้นปี 2567
ปัจจัยกระตุ้น 2 ผลกระทบจากการเพิ่มทุนเพื่อแลกหุ้นมีน้อยมาก
การที่ BCP ออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของ BSRC ผ่านการแลกหุ้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิม (dilution effect) ของ BCP เพียง 7% เชื่อว่าการควบรวมกิจการจะช่วยให้ต้นทุนปรับลดลงได้อีก และทำให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ BCP จะไม่ต้องใช้เงินทุนเพิ่มเพื่อนำมาซื้อหุ้น BSRC เพิ่มเติมในรอบนี้
ด้าน synergy เพิ่มเติมที่จะรับรู้ในปี 2568 รวมถึงผลกระทบเต็มปีของโครงการต่างๆ ในปี 2567 และต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลงอันเนื่องมาจากทุ่นรับน้ำมันดิบแบบหลายจุดแห่งใหม่ของ BSRC ที่ทำให้สามารถจอดเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ (VLCC) ได้ คาดว่าจะช่วยลด dilution effect ตามที่กล่าวถึงได้ ผู้บริหารคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568
ปัจจัยกระตุ้น 3 Valuation ยังต่ำกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันค่อนข้างมาก
ปัจจุบันหุ้น BCP ซื้อขายที่ EV/EBITDA 3.6 เท่า ในปี 2568 เมื่ออิงกับงบการเงินรวม ต่ำกว่าบริษัทอื่นๆ ที่ประกอบธุรกิจอย่างเดียวกันในตลาดภูมิภาคค่อนข้างมากที่ 10 เท่า ทำให้ตลาดมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มผลประกอบการของ BCP ท่ามกลางค่าการตลาดที่อ่อนแอและการที่รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงด้วยการตรึงราคาน้ำมันในประเทศ
ทั้งนี้ Valuation ของหุ้น BCP ก็ยังไม่แพงที่ PE ปี 2568 เพียง 6.4 เท่า ประกอบกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลก็น่าสนใจที่ 4-7% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม BCP มีปัจจัยเสี่ยงและความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและค่าการกลั่น ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจส่งผลทำให้ขาดทุนสต๊อกเพิ่มขึ้น ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รายการด้อยค่าของสินทรัพย์ในธุรกิจ E&P และรัฐบาลเข้าแทรกแซงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ส่วนปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือผลกระทบของธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ดังนั้น นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด’ เก็บหุ้น ‘บางจากฯ’ 62 ล้านหุ้น ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นอันดับ 4
- ก.ล.ต. เปิดสถิติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพปี 67 มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 6.4%
- ก.ล.ต. กล่าวโทษแพลตฟอร์ม XT.COM ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้รับอนุญาต
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X : https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg