Stock

วิเคราะห์ PTT ควักเงิน 1.6 หมื่นล้าน ‘ซื้อหุ้นคืน’ เริ่มวันนี้!

วิเคราะห์ PTT ควักเงิน 1.6 หมื่นล้าน “ซื้อหุ้นคืน ฟื้นความเชื่อมั่น” เริ่มตั้งแต่ 24 มีนาคม – 23 กันยายน 2568 รวมระยะเวลา 6 เดือน พร้อมเหตุผลหลักในการซื้อหุ้นคืน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติของไทย ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงาน ทั้งในด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) โรงกลั่นน้ำมัน ปิโตรเคมี และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในหุ้นขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันและรายย่อยให้ความสนใจ

แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ราคาหุ้น PTT เผชิญกับความผันผวน จากปัจจัยภายนอก เช่น ราคาน้ำมันโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความไม่แน่นอนของนโยบายพลังงาน และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนและบริหารสภาพคล่องของ โดยคณะกรรมการ ปตท. อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 16,000 ล้านบาท  เป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตามอง

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 บอร์ด PTT ได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 16,000 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 470 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.65% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด จะดำเนินการผ่าน ระบบการซื้อขายอัตโนมัติของตลาดหลักทรัพย์ฯ (Automatic Order Matching: AOM)

ซื้อหุ้นคืน

โครงการซื้อหุ้นคืนนี้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 23 กันยายน 2568 รวมระยะเวลา 6 เดือน กำหนดราคาซื้อคืน ไม่เกินกว่าราคาปิดเฉลี่ย 5 วัน ทำการก่อนหน้าวันที่ทำการซื้อขายแต่ละครั้ง บวกเพิ่ม 15%  ราคาหุ้น PTT ย้อนหลัง 30 วัน (18 ก.พ. – 19 มี.ค. 2568) อยู่ที่ 30.33 บาทต่อหุ้น

เหตุผลหลักในการซื้อหุ้นคืน ได้แก่
– การบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท
– การเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรต่อหุ้น (EPS)
– การสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ซื้อหุ้นคืนคืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

การซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) คือ กระบวนการที่บริษัทจดทะเบียนนำเงินสดมาซื้อหุ้นของตัวเองจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และเก็บไว้ในฐานะ “หุ้นซื้อคืน (Treasury Shares)” ซึ่งทำให้จำนวนหุ้นหมุนเวียน (Outstanding Shares) ในตลาดลดลง มีข้อดีคือ

1. เพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เมื่อจำนวนหุ้นลดลง แต่กำไรยังเท่าเดิม หรือเติบโตขึ้น จะทำให้ EPS เพิ่มขึ้นทันที และ ROE สูงขึ้น เพราะเงินทุนที่เคยถูกใช้จ่ายไปกับหุ้นหมุนเวียนลดลง
2. ช่วยพยุงราคาหุ้น เพราะการที่บริษัทซื้อหุ้นคืน มักเป็นสัญญาณว่าผู้บริหารเชื่อว่าหุ้นของบริษัทถูกประเมินค่าต่ำเกินไป (Undervalued)

3. ลดแรงขายจากนักลงทุนในตลาด เพิ่มความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน นักลงทุนมองว่าบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดเพียงพอ และไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนในโครงการใหม่

4. ลดความเสี่ยงของ Dilution Effect หากมีการออกหุ้นใหม่ เช่น การใช้หุ้นเป็นค่าตอบแทนพนักงาน การซื้อหุ้นคืนสามารถช่วยรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนเดิม

อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นคืนก็มีข้อเสียเช่นกัน อาทิ การใช้เงินสดของบริษัทไปกับหุ้นแทนการลงทุนขยายธุรกิจ และการที่บริษัทซื้อหุ้นคืนอาจถูกมองว่าไม่สามารถหาโอกาสลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่านี้ได้

ซื้อหุ้นคืน

วิเคราะห์การซื้อหุ้นคืนของ PTT

มุมมองของ บล. กรุงศรี ให้คำแนะนำ “Neutral” กับหุ้น PTT โดยตั้งราคาเป้าหมายที่ 32.50 บาทต่อหุ้น และมองว่าโครงการซื้อหุ้นคืนมีผลเชิงบวกเล็กน้อย (Slightly Positive) ต่อราคาหุ้น เนื่องจากช่วยเพิ่ม EPS และ ROE ในระยะสั้น แต่ไม่ได้เป็นตัวกระตุ้น (Catalyst) ที่จะดันราคาหุ้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

กำไรของ PTT ในปี 2568-2570 คาดว่าจะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่ยังมีความท้าทายจากธุรกิจ E&P (สำรวจและผลิตปิโตรเลียม) ที่ต้องเผชิญกับราคาน้ำมันที่อาจลดลง แต่บริษัทยังมีเงินสดเพียงพอในการดำเนินโครงการนี้ โดยเงินสดในมืออยู่ที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท

ซื้อหุ้นคืน

มุมมองของ บล. บัวหลวง มองว่าโครงการซื้อหุ้นคืนเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้น สามารถช่วยพยุงราคาหุ้น และแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของบริษัท แต่ยังเน้นว่าหุ้น PTT ยังมีปัจจัยกดดันจากภาวะตลาดพลังงานและความผันผวนของราคาน้ำมัน เนื่องจากในระยะยาวการเติบโตของบริษัทจะขึ้นอยู่กับทิศทางของอุตสาหกรรมพลังงานเป็นหลัก

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น PTT ล่าสุด ณ วันที่ 21 มีนาคม 2568 อยู่ที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25% จากวันก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนตอบรับข่าวซื้อหุ้นคืนในเชิงบวก ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาหุ้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 30-32 บาทในช่วงเดือนที่ผ่านมา

สรุปแล้วการซื้อหุ้นคืนของ PTT อาจช่วยให้หุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะสั้น แต่ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันราคาหุ้นในระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มราคาน้ำมันโลก ผลประกอบการของ PTT และธุรกิจลูก ตลอดจนการลงทุนใหม่ๆ ในพลังงานสะอาด และการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพราะฉะนั้น นักลงทุนที่สนใจหุ้น PTT ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและติดตามแนวโน้มราคาน้ำมันและพลังงานโลกอย่างใกล้ชิด ก่อนตัดสินใจลงทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน