ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดสถิติการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ปี 2567 จำนวน 590 บริษัท จ่ายเงินปันผลรวม 864 ครั้ง รวมเงินปันผลกว่า 5.93 แสนล้านบาท หมวดพลังงาน ธนาคาร ไอที จ่ายสูงสุด
จากข้อมูลสถิติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (ตลาดหุ้นไทย) พบว่า ในปี 2567 มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมสูงถึง 593,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เล็กน้อย และหากพิจารณาการจ่ายเงินปันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า มูลค่าการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.01%
ทั้งนี้ จากปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 2566-2567 ที่มีรายได้รวมสูงปีละกว่า 18 ล้านล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ถึง 9.41 แสนล้านบาทและ 8.7 แสนล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวเป็นการจ่ายปันผล 864 ครั้ง จากบริษัทจดทะเบียน 590 บริษัท (บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จ่ายเงินปันผลปีละครั้ง บางบริษัทจ่าย 2 – 4 ครั้งในแต่ละปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของแต่ละบริษัท)
ในช่วงเทศกาลจ่ายเงินปันผล คือ ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2567 บริษัทจดทะเบียนจ่ายเงินปันผลรวม 538 ครั้ง หรือคิดเป็น 62.3% ของจำนวนการจ่าย เงินปันผลทั้งหมดในปี 2567 โดยเดือนพฤษภาคมมีการจ่ายเงินปันผลมากที่สุด รวม 464 ครั้ง คิดเป็น 53.7% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลทั้งหมดในปี 2567
ในแต่ละปีจะมีเทศกาลจ่ายเงินปันผลอีกหนึ่งรอบในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี พบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567 มีการจ่ายเงินปันผลรวม 210 ครั้ง หรือประมาณ 24.3% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลในปี 2567
หากพิจารณามูลค่าเงินปันผลที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น ในปี 2567 พบว่า ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2567 มีการจ่ายเงินปันผลรวม 366,148 ล้านบาท คิดเป็น 61.7% ของมูลค่าเงินปันผลทั้งหมดที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นในปี 2567
ส่วนเดือนที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เดือนพฤษภาคม 2567 ที่มีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่าสูงสุด 216,566 ล้านบาท คิดเป็น 36.5% ของมูลค่าเงินปันผลทั้งหมดที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นในปี 2567 ตามมาด้วยเดือนเมษายน 2567 ที่มีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่าสูงสุด 145,256 ล้านบาท คิดเป็น 24.5% และเดือนกันยายน 2567 มีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่าสูงสุด 145,100 ล้านบาท คิดเป็น 24.4% ตามลำดับ
3 หมวดธุรกิจที่มีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่าสูงสุดในปี 2567
เมื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน ในปี 2567 จำแนกตามหมวดธุรกิจ พบว่า 3 หมวดธุรกิจที่มีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่าสูงสุด ยังคงเป็นหมวดธุรกิจเดียวกันกับปี 2566 ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
บริษัทจดทะเบียนในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy and utilities sector) จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วยมูลค่ามากที่สุด รวมกว่า 170,148 ล้านบาท ตามมาด้วยบริษัทจดทะเบียนในหมวดธนาคาร (Banking sector) ที่จ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่ารวม 107,093 ล้านบาท และหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information & Communication Technology sector) ที่จ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่ารวม 53,594 ล้านบาท
แม้ว่า ในปี 2567 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวมน้อยกว่าปี 2566 แต่ก็อยู่ในระดับสูงถึง 8.69 แสนล้านบาท ขณะที่ SET Index ลดลงไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า SET Index อาจลงมาอยู่ในระดับต่ำ อาจเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้ามาเลือกซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผล
จากสถิติการจ่ายเงินปันผลที่กล่าวมาข้างต้น อาจสรุปได้ว่า การลงทุนในหุ้นปันผลก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนและผู้มีเงินออมที่เน้นการลงทุนระยะยาว ที่สำคัญคือ การคัดเลือกหุ้นปันผล และจังหวะเวลาในการเข้าซื้อหุ้นปันผล ซึ่งโดยปกติราคาหุ้นจะสูงหรือต่ำ ก็ขึ้นอยู่ปัจจัยพื้นฐาน (อาทิ ทิศทางเศรษฐกิจ ภาวะอุตสาหกรรม และผลประกอบการ เป็นต้น) และปัจจัยด้านจิตวิทยา ที่เกี่ยวข้องกับความคาดหวังของนักลงทุนและปริมาณความต้องการหุ้นของนักลงทุน
จากการเคลื่อนไหวของ SET Index ตั้งแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขายในปี 2518 ถึงปัจจุบัน พบว่า มีช่วงที่ SET Index แตะที่ระดับ 1,000 จุด ขึ้นไป อยู่ 3 ช่วงเวลา กล่าวคือ ในปี 2533 ที่ SET Index ทำสถิติสูงสุดระหว่างที่แตะ 1,143 จุดในวันที่ 25 กรกฎาคม 2533 ก่อนลดลงมาปิดสิ้นปีที่ 612.86 จุด และในช่วงที่ 2 ในช่วงปี 2538 – 2539 ช่วงก่อนวิกฤติต้มยำกุ้ง และในช่วงที่ 3 ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ที่ SET Index มีการเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงกว่า 1,000 จุด ต่อเนื่องกว่า 15 ปี
หากเปรียบเทียบผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย พบว่า ข้อสังเกตที่น่าสนใจ กล่าวคือ
1. ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 คือ ในปี 2563 ที่กำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนลดลงค่อนข้างเยอะเหลือเพียง 3.99 แสนล้านบาท ขณะที่ SET Index เคลื่อนไหวในช่วงกว้างอยู่ในช่วง 1,024.46 – 1,600.48 จุด และปิดที่ 1,449.35 จุด ก่อนที่กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนก็ฟื้นตัวมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด
2. ในปี 2567 แม้ว่าบริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวมลดลงน้อยกว่าปี 2566 แต่ก็อยู่ในระดับสูงถึง 8.69 แสนล้านบาท ขณะที่ SET Index ลดลงไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า SET Index อาจลงมาอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้ามาเลือกซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผล
เมื่อพิจารณาผลประกอบการปี 2567 ของบริษัทจดทะเบียน พบว่า ส่วนใหญ่ (627 บริษัท) หรือ 67.8% ของบริษัท จดทะเบียนทั้งหมดยังคงมีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจในปี 2567 อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลนอกจากจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการปี 2567 แล้ว ยังขึ้นอยู่กับผลประกอบการที่เกิดขึ้นในปี 2568 ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งนโยบายการจ่ายเงินปันผล ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทอีกด้วย
ดังนั้น จากข้อมูลสถิติการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เป็นข้อมูลเบื้องต้นให้นักลงทุนได้ทราบช่วงเวลาในการจ่ายเงินปันผล เพื่อใช้ประกอบการวางแผนคัดเลือกหุ้นปันผลและเลือกจังหวะเวลาในการเข้าซื้อหุ้นปันผลเข้าพอร์ตการลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘แพทองธาร’ เรียก ‘ก.ล.ต.-ตลท.-DSI’ หารือ กำชับ 4 เรื่องสำคัญเรียกเชื่อมั่นตลาดหุ้น
- ส่องหุ้นเด่น 2 กลุ่มน่าลงทุน ช่วงตลาดหุ้นผันผวนหนัก!
- ส่อง 12 หุ้นเด่นเดือนกุมภาพันธ์ รับอานิสงส์ Easy E-receipt
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X : https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg