“GULF” โชว์กำไรปี 2567 กว่า 1.8 หมื่นล้าน เดินหน้าสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งกว่าทศวรรษ คาดแนวโน้มครึ่งปีแรก 2568 แข็งแกร่งแรงหนุนจากการเพิ่มกําลังการผลิต IPP ใหม่
หุ้นผู้นำในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและาธารณูปโภคอย่าง GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ออกมาแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลขที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 124,585 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน (core profit) เท่ากับ 18,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัท มีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ของโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 เมกะวัตต์ พร้อมกับโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,540 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หน่วยผลิตที่ 1 จำนวน 770 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกัน GULF ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่ม GJP เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปริมาณการขายไฟฟ้าให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 7 โครงการ
นอกจากนี้ ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จำนวน 6,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% โดยสาเหตุหลักมาจากผลประกอบการของ ADVANC ที่ดีขึ้น เป็นผลจาก ARPU ที่เพิ่มขึ้น จากการมุ่งเน้นจำหน่ายแพ็กเกจที่มีมูลค่าสูงขึ้น ประกอบกับการขยายฐานผู้ใช้บริการและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับในปี 2568 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้น 20-25% โดยโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีกประมาณ 1,500 เมกะวัตต์ ประกอบกับธุรกิจศูนย์ข้อมูล (data center) มีแผนที่จะทยอยเปิดให้บริการเฟสแรกขนาด 25 เมกะวัตต์ ในเดือนเมษายนนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 ในอัตรา 1.01 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ 83% กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 มีนาคม 2568
คาดกำไรหลักทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์ บล. บัวหลวง เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2568 คาด GULF จะรายงานกำไรทำสถิติใหม่ หนุนโดยกำไรจากกำลังการผลิตใหม่ ดังนั้นยังคงประมาณการกำไรหลักปี 2568 ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY รวมทั้งให้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2568 ที่ 75 บาทต่อหุ้น
มองว่า GULF มีแนวโน้มรายงานการเติบโตของกำไรหลักที่แข็งแกร่งต่อเนื่องนานกว่าทศวรรษ เกิดจากแผนการขยายในอนาคตของบริษัท ประกอบด้วย ดาต้าเซนเตอร์ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ในขณะที่การควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่องกับ INTUCH จะแล้วเสร็จภายในปลายไตรมาส 1/2568 หรือต้นไตรมาส 2/2568 น่าจะหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น
บทวิเคราะห์ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดเผยว่า GULF มีแนวโน้มครึ่งปีแรก 2568 ที่แข็งแกร่ง คาดจะยังคงได้แรงหนุนจากการเพิ่มกําลังการผลิต IPP ใหม่ เช่น HKP หน่วย 2, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาที่จะทยอย COD, Data Center และระบบสาธารณูปโภคของ One Bangkok
นอกจากนี้ GULF ยังมีแผนเปิดดําเนินการโครงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 5 แห่ง และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) 2 แห่ง โดย GULF ตั้งเป้ากําลังการผลิต 16,577 MW ในปี 2568
สุดท้ายนี้ Valuation ยังคงน่าสนใจ ปัจจุบันหุ้น GULF ซื้อขายที่ PE ปี 2568 ระดับ 31.3 เท่า หรือ -1.0 SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี จึงยังคงมุมมองเชิงบวกต่อความแข็งแกร่งของผลประกอบการในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า และคงแนะนํา OUTPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2568 ที่ 72 บาทต่อหุ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กัลฟ์ แอลเอ็นจี’ นำเข้า LNG ล็อตแรก ป้อนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ
- TRIS คงอันดับเครดิต GULF ที่ ‘A+’ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น ‘Positive’
- ‘GULF’ ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 ระดับ AAA
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx
