PTTEP กำไรปี 2567 แข็งแกร่งเป็นสถิติ จังหวะเก็งกำไรตามราคาน้ำมันดิบ
รายงานผลประกอบการประจำปี 2567 ออกมาเรียบร้อยแล้ว สำหรับหุ้น PTTEP หรือ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 327,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับปีก่อน กำไรสุทธิที่ 78,824 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 18.89 บาท
โดยบริษัทมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 488,794 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เติบโตขึ้น 6% ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ 46.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
นอกจากนี้ คณะกรรมการ PTTEP มีมติจ่ายปันผล สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งหลังปี 2567 ที่ 5.125 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อรวมทั้งปี PTTEP จ่ายเงินปันผลรวมเป็น 9.625 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Payout 48% จากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีสินทรัพย์รวม 965,301 ล้านบาท
กำไรเต็มปีทำสถิติสูงสุดใหม่
จะเห็นว่าตัวเลขกำไรสุทธิ 78,824 ล้านบาท ถือเป็น New High ของ PTTEP เป็นไปตาม Bloomberg Consensus ประมาณการไว้ และทางบทวิเคราะห์ บล. เคจีไอ ระบุว่ามีปัจจัยสำคัญที่น่าสนใจจากงบงวดล่าสุด ดังนี้
1. ปริมาณยอดขายรวมเพิ่มขึ้นเป็น 500 KBOED เนื่องจากผลผลิตในประเทศไทยจากแหล่งเอราวัณ, บงกช, อาทิตย์ และไพลิน หลังจากที่ปิดซ่อมบํารุงตามแผนไปในไตรมาส 3/2567 ในขณะที่ crude load ก็เพิ่มขึ้นจากโครงการ Oman Block 6 และ Oman Block 61
2. ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ลดลงเหลือ $45.8/BOE เพราะราคาขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ
3. ต้นทุนต่อหน่วยรวมลดลง เพราะค่าใช้จ่าย DD&A ลดลงอย่างมีนัยสําคัญหลังจากที่บริษัทเพิ่มปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว (1P) ของโครงการเอราวัณ
4. โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง Seagreen ซึ่ง PTTEP ถือหุ้นโดยอ้อม 25.5% ส่งกำไรมาที่บริษัท 19 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4/2567
กำไรและปันผลอยู่ในระดับสูง
หุ้น PTTEP จะดึงดูดความสนใจของนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นเงินปันผล เนื่องจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่อิงตามราคาหุ้นในปัจจุบันแข็งแกร่งถึง 7.7% ตอกย้ำความน่าสนใจของในฐานะหุ้นที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเงินปันผล
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บล. กรุงศรี มองว่า ค่าใช้จ่ายที่ลดลงจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของกำไร โดยคาดกำไรปกติอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท ทรงตัว y-y ฟื้นตัว q-q แม้ว่าปริมาณขายจะปรับตัวลงเล้กน้อย
ระยะสั้นเน้นเทรดตามราคาน้ำมัน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน PTTEP ในระยะสั้น บล. ฟิลลิป แนะนำเน้นเทรดตามแนวโน้มราคาน้ามันดิบเป็นหลัก โดยมีราคาพื้นฐานที่ 175 บาทต่อหุ้น เช่นเดียวกับ บล. กรุงศรี แนะนำเก็งกำไรที่ราคาเป้าหมาย 140 บาทต่อหุ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่คาดจะฟื้นตัวในครึ่งปีแรก จากการคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย และการใช้น้ำมันของจีนที่ฟื้นตัว รวมถึง supply ของสหรัฐฯ และ OPEC+ ที่เพิ่มได้ไม่เร็วนัก
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2568 ว่า บริษัทมุ่งเน้นการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์หลัก “Drive-Decarbonize-Diversify” โดยได้จัดสรรงบประมาณรวม 261,940 ล้านบาท สำหรับรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายดำเนินงาน โดยแหล่งเงินทุนหลักมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในปี 2567 เพื่อผลักดันกิจกรรมการสำรวจพัฒนาและเพิ่มอัตราการผลิตปิโตรเลียม เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ รวมถึงการดำเนินงานตามแผนงาน สำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควบคู่ไปกับการขยายการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้กับบริษัทต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘PTTEP’ กำไรไตรมาส 2 แกร่งกว่าคาด
- หุ้น PTTEP ขึ้นช้ากว่าน้ำมันดิบ แต่มีอัพไซด์หลังเพิ่มกำลังผลิตแหล่งก๊าซเอราวัณ
- บอร์ด ปตท.สผ. เคาะจ่ายเงินปันผล 9.25 บาทต่อหุ้น เปิดงบลงทุนปีนี้ 1.91 แสนล้าน
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx