ตลอดทั้งปี 2567 ที่ผ่านมา ผู้นำในธุรกิจปิโตรเลียม และธุรกิจเคมีภัณฑ์อย่าง “PTTGC” หรือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากมาย
ผลตอบแทนของราคาหุ้นปรับตัวลงไปกว่า 30% จากผลประกอบการที่เผชิญกับภาวะผลขาดทุน เพราะภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะสดใส ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจปิโตรเคมีโอเลฟินส์ และโพลีเมอร์ ทั้งราคาผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์เฉลี่ยทั้งกลุ่มปรับตัวลดลง
ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ ก็เจอกับราคาต้นทุนแพงขึ้น รวมไปถึงธุรกิจโรงกลั่น ที่ทำได้เพียงประคองตัว จากการปิดซ่อมบำรุงหน่วยเพิ่มคุณภาพน้ำมัน ซึ่งกระทบต่ออัตรากลั่นที่ลดลง
อย่างไรก็ดี ปี 2568 คาดว่าสถานการณ์ของ PTTGC จะมีแนวโน้มที่ค่อย ๆ ดีขึ้น จากปัจจัยสำคัญ ดังต่อไปนี้
ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ช่วยลดภาระขาดทุนจาก Vencorex และ PTT Asahi ราว 4-5 พันล้านบาทต่อปี และไม่มีการด้อยค่าสินทรัพย์จำนวนมากในปีนี้
ทิศทาง Spread ปิโตรเคมีจะค่อย ๆ ดีขึ้น และปริมาณวัตถุดิบ Ethane เพิ่มขึ้น ช่วยสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุน บลหยวนต้า คาดว่า ประมาณการผลประกอบการปี 2568 ของ PTTGC จะพลิกกลับมามีกำไร 1.2 พันล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี Upside จากรายการพิเศษ หาก PTTGC สามารถหาเจ้าของใหม่ Vencorex ในประเทศไทย และสหรัฐอเมริกาได้
Theme China Play มาขับเคลื่อนราคาหุ้น โดย บล. เอเซีย พลัส เชื่อว่า เรื่องนี้จะเป็น Upside ของหุ้น PTTGC ในปีนี้ หากเศรษฐกิจกลับมาผงาดได้อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการโดยรวมของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
กระนั้นก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/67 ที่กำลังจะรายงานออกมานี้ บล. เอเซีย พลัส คงประเมินว่า บริษัทจะมีผลขาดทุนสุทธิ ราว 1.2 หมื่นล้านบาท แต่ถือว่าดีขึ้นจากงวดก่อนหน้า ที่เผชิญกับผลขาดทุนสุทธิสูงถึง 1.9 หมื่นล้านบาท
รับผลบวกหลักจากรายการพิเศษที่สุทธิในงวดนี้เป็นค่าใช้พิเศษรวมที่ลดลง เนื่องจากในงวดนี้ไม่มีการตั้งบันทึกด้อยค่าของสินทรัพย์ในกลุ่มบริษัท Vencorex (PTTGC ถือหุ้น 100%) และมีเพียงบันทึกค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างของ Vencorex ส่วนที่เหลืออีกราว 1.1 พันล้านบาท
สําหรับทิศทางผลการดําเนินงานปกติงวดไตรมาส 1/68 คาดว่า จะเห็นการฟื้นตัว โดยจะได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจโรงกลั่นที่กลับมาเดินเครื่องหน่วย hydrocracking ปกติแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 อีกทั้งยังอยู่ในช่วงฤดูกาลฤดูหนาว และเทศกาลปลายปี ทําให้คาดค่าการกลั่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
เช่นเดียวกับธุรกิจปิโตรเคมี ที่คาดว่า จะฟื้นตัวจากช่วงต่ำสุดในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยความหวังอยู่ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศจีนที่จะค่อย ๆ กลับมาตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ประเด็นลบส่วนใหญ่สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว
บทวิเคราะห์ บล. หยวนต้า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTTGC โดยมีราคาเป้าหมายที่ 28 บาทต่อหุ้น จากมุมมองระยะยาว เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ และประเด็นลบส่วนใหญ่สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว ซึ่งปัจจุบัน PTTGC ซื้อขายบน PBV ที่ 0.4 เท่า (Discount -1.7SD)
แม้ว่าปี 2568 ภาพรวมของอุตสาหกรรมปิโตรเคมียังไม่สดใสเต็มที่ และมีแผนหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงกลั่น แต่ทว่าสถานการณ์จะค่อย ๆ ดีขึ้น คาดปีผลประกอบการปี 2568 ของ PTTGC พลิกเป็นกำไร 1.2 พันล้านบาท
ส่วนความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องรู้เกี่ยวก่อนตัดสินใจลงทุน ได้แก่
- การหยุดฉุกเฉินของโรงกลั่น โรงงานโอเลฟินส์ และโรงงานอะโรเมติกส์ (UNPLANNED SHUTDOWN)
- ค่าการกลั่น และ SPREAD ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ไม่ได้เป็นไปตามสมมติฐานที่กําหนดไว้
- การแทรกแซงของรัฐ ในการกําหนดราคาต้นทุนวัตถุดิบและราคาผลิตภัณฑ์
- การลงทุนในต่างประเทศ มีความเสี่ยง COUNTRY RISK
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนเดือน ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 78.52 ร่วงลงสู่เกณฑ์ ‘ซบเซา’
- 10 อันดับหุ้นไทยกำไรสูงสุด-ส่องราคาเป้าหมาย
- ทบทวนหุ้น SAPPE ได้จังหวะรีบาวด์แล้วหรือยัง?
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx