Stock

หุ้นไทยมรสุมรุมเร้า! คาดเป้าหมายสิ้นปีแตะ 1,556 จุด เปิด 4 หุ้นเด่น 3 กลุ่มควรเลี่ยง

“สมาคมนักวิเคราะห์” ชี้หุ้นไทยมรสุมรุมเร้า! คาดเป้าหมายสิ้นปีแตะ 1,556 จุด จากเดิมคาดอยู่ที่ อยู่ที่ 1,614 จุด พร้อมแนะ 4 หุ้นเด่น 3 กลุ่มควรหลีกเลี่ยง

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน รวม 26 สำนัก เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนในปี 2568 มองดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 1,322-1,581 จุด โดยมีเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 1,556 จุด ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนที่คาดว่าดัชนีปี 2568 อยู่ที่ 1,614 จุด

หุ้นไทย

ปัจจัยลบตลาดหุ้นไทย

โดยมีปัจจัยลบด้าน Fund Flows จากต่างประเทศออกจากตลาดหุ้นไทย ผู้ตอบ 74.07% ของผู้ตอบทั้งหมด รองลงมา ปัจจัยด้านการเมืองในประเทศ มีผู้ตอบ 69.23% ตามมาด้วยปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ มีผู้ตอบ 61.54% และการลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศสำคัญทั่วโลก มีผู้โหวต 55.56% ตามลำดับ

ทั้งนี้ปี 2567 นักลงทุนต่างชาติขายออกเกือบ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติขายออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้นักวิเคราะห์ก็ไม่ได้หวังเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ แต่เชื่อมั่นกลไกเศรษฐกิจไทยซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัว จากการลงทุนของภาครัฐซึ่งคาดว่าปีนี้จะสามารถใช้งบลงทุนได้อย่างเต็มกำลัง

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 1/2568 มองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มไปในทิศทางบวก โดยปัจจัยที่น่าจับตามองเป็นพิเศษในไตรมาสนี้ คือการเข้ารับตำแหน่งและนโยบายของ Trump ตามมาด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยและการลงทุนของภาครัฐ โดยจะปิดสิ้นไตรมาส 1/2568 ที่ 1,449 จุด

หุ้นไทย

คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย

ส่วนคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสิ้นปี 2568 นั้นมีความเห็นต่างกันพอสมควร โดยผู้ตอบ 54% คาดว่าจะอยู่ที่ 2% รองลงมาผู้ตอบ 22% มองว่าปรับลดลงมาที่ 1.75% ถัดมาผู้ตอบ 17% มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายคงที่ที่ 2.25%และ 4% ที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจปรับลดไปอยู่ที่ 1.50%

ด้านคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2567 ของตลาดเฉลี่ยได้ที่ 84.61 บาท ปรับลดจากผลสำรวจครั้งก่อน ซึ่งอยู่ที่ 89.91 บาท/หุ้น และคาดว่า EPS Growth ของปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 12.22% ทั้งยังคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2568 ของตลาดเฉลี่ยไว้ที่ 94.95 บาท

หุ้นไทย

นักวิเคราะห์แนะนำให้มีการกระจายพอร์ตการลงทุน แบ่งเป็น เงินสดและเงินฝากระยะสั้น 10.72% กองทุนตราสารหนี้ 22.00% หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 29.56% หุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 22.52% กองทุนอสังหาฯ หรือ REIT 6.90% ทองคำหรือกองทุนทองคำ 8.10% และสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น Bitcoin 0.20%

โดยความเห็นการลงทุนต่างประเทศ แนะนำกองทุนหุ้นสหรัฐโดยเฉพาะ AI-Technology และ Selective Asia เช่น จีน เกาหลี และ เวียดนาม สำหรับในการลงทุนหุ้นไทยนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ในหมวดธุรกิจค้าปลีก รับเหมาก่อสร้าง ภาคบริการ การท่องเที่ยว เทคโนโลยีและการสื่อสาร ในขณะที่ให้ลดน้ำหนักการลงทุนใน หมวดธุรกิจยานยนด์ พลังงานและปิโตรเคมี

หุ้นไทย

หุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไป

  • AOT มองว่าได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวฟื้น โดยเติบโตไปตามการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งในปี 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่ 36 ล้าน และปี 2568 ที่ 40 ล้านคน
  • ADVANC มองว่าธุรกิจฟื้นตัว ต้นทุนต่ำลง มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ปลอดภัยจากนโยบายของทรัมป์ และได้ประโยชน์จากกระแส Data center
  • BDMS ได้อานิสงส์จากสังคมสูงวัยที่จะใหญ่ขึ้น คาดกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติยังคงเติบโต
  • CPALL ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

สำหรับหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ หุ้นกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK