Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดพุ่ง 390.08 จุด ‘หุ้นเทคโนโลยี’ หนุนตลาดต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (24 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” เพิ่มขึ้น 390.08 จุด ทะลุแนว 43,000 จุด แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง และหุ้นเติบโต (Growth Stocks)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,297.03 จุด เพิ่มขึ้น 390.08 จุด หรือ +0.91% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 6,040.04 จุด เพิ่มขึ้น 65.97 จุด หรือ +1.10% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 20,031.13 จุด เพิ่มขึ้น 266.24 จุด หรือ +1.35%

ดาวโจนส์

ดัชนีดาวโจนส์ และแนสแด็กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ขณะที่เอสแอนด์พี 500 ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นวันแรกของปรากฏการณ์ “ซานต้า แรลลี่” ที่ข้อมูลเชิงสถิติบ่งชี้ว่า จะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยเกิดขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมถึง 2 วันแรกของปีใหม่

หุ้นทั้ง 7 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง หรือ “Magnificent Seven” พุ่งขึ้นถ้วนหน้า นำโดยหุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 7.4% หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นแอปเปิ้ล บวก 1.1% หุ้นเอ็นวิเดีย บวก 0.4% หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้น 0.8% และหุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft) ดีดตัวขึ้น 0.94%

หุ้นเติบโตปรับตัวขึ้น แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.61% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม  ซึ่งโดยปกติแล้ว การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการกู้ยืมนั้น มักจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อหุ้นเติบโต

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มการเงิน พุ่งขึ้น 2.62% และ 1.20% ตามลำดับ

ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการซื้อขายในวันนี้ (25 ธ.ค.) เนื่องในวันคริสต์มาส

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo