หุ้น BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้พัฒนา และให้บริหารทางพิเศษและโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งแนวโน้มธุรกิจกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2565 และคาดว่าจะสามารถทำกำไรทุบสถิติใหม่ (New High) ไปอย่างน้อย ๆ ถึงปี 2568
หลังจากภาพรวมผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 13,359 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะการเติบโตที่ต่อเนื่องของจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT ที่ 1-2 บาทต่อเที่ยว
นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจทางพิเศษ และรายได้จากธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ ก็ยังแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของหุ้น BEM ในเวลานี้ ราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนถึงแนวโน้มกำไรที่สดใสของบริษัท นับตั้งแต่ต้นปี จนถึงวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้น Underperform SET ประมาณ 8% ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลของตลาดกับประเด็นความเสี่ยงทางการเมือง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รวมถึงมูลค่าของหุ้น BEM ที่ P/E อยู่แถว 30 เท่า ก็ถือว่าไม่ได้ถูกนัก
ในทางกลับกันหุ้น BEM ก็เต็มไปด้วยความน่าสนใจหลายด้าน โดยเฉพาะในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน ที่มีโอกาสจะหนุนให้ราคาหุ้นโดดเด่นในระยะยาว สรุปออกมาเป็น 3 ประเด็นการลงทุนจากบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย บล.ฟิลลิป และบล.ทิสโก้ ดังนี้
คาดกำไรไตรมาส 4/67 โตต่อ YoY จากรถไฟฟ้า
ข้อมูลในเดือนตุลาคม 2567 มีจำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 7.2% เป็น 444,000 คนต่อวันส่วน และค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 8.6% เป็น 29.85 บาท ทำให้ธุรกิจรถไฟฟ้าได้ประโยชน์ 2 ทางทั้งจำนวน และค่าโดยสาร
แต่ธุรกิจทางด่วนนั้นทรงตัวที่ 1.11 ล้านคัน จากผลกระทบการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง และการคืนพื้นที่ถนนหลังก่อสร้างสายสีชมพูเสร็จ ทำให้รถกลับไปใช้ถนนพื้นราบ ส่งผลต่อทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนซี (ประชาชื่น-แจ้งวัฒนะ)
และการปรับขึ้นค่าทางด่วนฉลองรัชฯ ทำให้รถใช้บริการลดลง ส่งผลต่อทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนดี (พระราม 9-ศรีนครินทร์) ที่รับรถต่อจากทางด่วนฉลองรัชเข้ามาเมืองได้รับผลกระทบไปด้วย
ดังนั้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 จะยังเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ เพราะไม่มีปันผลจาก TTW และ CKP
คาดกำไรปกติปี 2567 และปี 2568 จะแตะระดับสูงสุดใหม่
นักวิเคราะห์มองว่า BEM จะมีกำไรปกติปีนี้ที่ 3,880 ล้านบาท และเติบโตต่อเป็น 4,150 ล้านบาทในปีหน้า ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร และคาดว่า BEM จะได้งาน M&E สำหรับสายสีม่วง และโครงการทางด่วนสองชั้น Double Deck (แลกกับการต่อสัมปทาน 22 ปี 5 เดือน) ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้บริษัทต่อไป
โครงการอสังหาฯ ขนาดใหญ่ยังคงเปิดเฟสใหม่เพิ่ม กระตุ้นผู้ใช้รถไฟฟ้าและทางด่วน
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 มีโครงการมิกซ์ยูส 2 โครงการ คือ “วัน แบงค็อก” กับ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” และในปี 2568 ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะมีการเปิดเฟสถัดไป จะเปิดครบทั้งโครงการอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ วัน แบงค็อก จะเปิดเฟส 2 มีอาคารสำนักงานอีก 2 อาคาร ศูนย์การค้าโซนที่ 3 อาคารที่พักอาศัย 1 อาคาร โรงแรม Upscale Lifestyle และอาคารศูนย์ประชุม
ทั้งคู่ถือเป็นโครงการที่ใหญ่มาก เชื่อว่าจะหนุนผู้ใช้รถไฟฟ้า MRT ที่สถานีลุมพินี และทางด่วนที่ด่านพระราม 4 ได้ตลอดทั้งปี 2568
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โอกาสของหุ้นอะไร เมื่อ ‘Nvidia’ เตรียมบุกลงทุนในไทย
- จังหวะเก็งกำไร ‘หุ้นยางพารา’ ถึงรอบขาขึ้น
- After You รุกขยายขายใน 7-Eleven ให้ถึง 14,000 สาขา
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg
