จังหวะเก็งกำไร ‘หุ้นยางพารา’ ถึงรอบขาขึ้น
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยางพาราในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หลัก ๆ จะมีด้วยกัน 4 ตัว ประกอบไปด้วย
- STA หรือ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจรในหลากหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ การทำสวนยางพาราในประเทศไทย ธุรกิจกลางน้ำ การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง (TSR) ยางแผ่นรมควัน (RSS) และน้ำยางข้น (Concentrated Latex)
- STGT หรือ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางที่ใช้ในทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอื่น โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง ถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง และถุงมือยางไนไตรล์
- TEGH หรือ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ ยางธรรมชาติ น้ำมันปาล์มดิบ และพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์
- NER หรือ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)
ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง
จะสังเกตเห็นว่าตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มยางพารา ได้แก่ STA, STGT และ TEGH กอดคอกันวิ่งเพิ่มขึ้น +2.22% +9.55% และ +6.17% ตามลำดับ ยกเว้น NER ที่ราคาทรงตัว โดยมีปัจจัยบวกจากกรณีฝนตกหนักในภาคใต้ กระทบปริมาณการผลิตยางในตลาดภาพรวม ทว่าส่งผลบวกต่อราคายางให้พุ่งสูงขึ้น
จังหวะเก็งกำไรหุ้นยางพารา
บล.หยวนต้า ออกบทวิเคราะห์ชี้เป็นจังหวะ “ลงทุนแบบเก็งกำไร” ในหุ้นกลุ่มยางพารา เนื่องจากมองว่า ราคาหุ้นกลุ่มยางพาราในประเทศไทย ยังค่อนข้างที่จะฟื้นตัวช้ากว่าราคายางในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ อ้างอิงข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนฝนตกหนักบริเวณภาคใต้คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง 13 จังหวัดภาคใต้ ฝนตกหนักถึงหนักมาก มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 28-30 พฤศจิยายน 2567
จึงมองว่าฝนที่ตกหนัก และต่อเนื่องในภาคใต้ จะกระทบต่อปริมาณผลผลิตยางพาราของไทย เพราะเกษตรกรจะไม่สามารถกรีดต้นยางได้ พร้อมกันนี้เริ่มมีน้ำท่วมเฉียบพลัน และน้ำท่วมขังบางพื้นที่ในจังหวัดสงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งกระทบพื้นที่การเกษตร รวมถึงสวนยางพารา
สำหรับราคายางแท่งในตลาด SICOM ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 196.50 Cent/kg แต่พบว่าปริมาณซัพพลายยางที่ออกมาลดลง ซึ่งคาดว่าราคายางมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือ และมีโอกาสกลับไปยืนเหนือระดับ 200 Cent/kg ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุน Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มยางพารา
Bloomberg consensus มองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของหุ้นยางพาราจากราคาขายเป็นสำคัญ ถึงแม้จะมีการเลื่อนเกณฑ์ EUDR ที่ประกาศในเดือนตุลาคมไปแล้ว
ทั้งนี้ เกณฑ์ EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) คือ มุ่งเน้นการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของวัตถุดิบของหลายสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงยางที่จะต้องมาจากพื้นที่ปลอดจากตัดไม้ทำลายป่าและไม่รุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งเดิมจะเริ่มบังคับใช้ปลายปี 2567 และในต้นเดือนตุลาคม 2567 มีการประกาศเลื่อนการใช้เกณฑ์ EUDR ออกไป 1 ปี เป็นปลายปี 2568
อุตสาหกรรมยางพาราในไทย ยังมีโอกาสได้รับอานิสงส์เพิ่มเติม หากมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน สำหรับมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าถุงมือยางนำเข้าจากจีนสู่สหรัฐของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่อาจจะเรียกเก็บภาษีกับจีนสูงถึง 50% ในปี 2568 เพื่อเป็นการกีดกันทางการค้า แต่อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าถุงมือยางจากไทย และมาเลเซีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก’ อนาคตของ ‘หุ้นโรงไฟฟ้าไทย’
- สำรวจ 5 หุ้น REIT ปันผลสูงในยุคประหยัดดอกเบี้ย
- 10 หุ้นบิ๊กเทคจีน รับการกระตุ้นครั้งใหญ่
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg