Stock - Finance

3 เหตุผลทำไมหุ้น CPALL ถึงยังน่าสนใจ

สรุป 3 เหตุผลทำไมหุ้น CPALL ถึงยังน่าสนใจ ที่นักลงทุนควรรู้ ทั้งในแง่ของ Upside อนาคต และปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง

หุ้น CPALL: บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ค้าปลีกอันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยปัจจุบัน (15 พ.ย.67) บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 572,672 ล้านบาท เป็นหุ้นบลูชิพที่ถือว่าใหญ่ติดท็อป 10 อันดับแรกของตลาดหุ้นไทย

ทว่าภาพของหุ้น CPALL ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอาจจะดูไม่ค่อยหวือหวานักใสชนสายตานักลงทุน บ้างก็ว่าธุรกิจเต็มมูลค่าแล้ว บ้างก็ว่าราคาหุ้นใหญ่จนหนักเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม จะเห็นในปี 2567 ราคาหุ้น CPALL กลับมาทะยานขึ้นหนือตลาดได้อีกครั้ง

โดยผลตอบแทนของหุ้น CPALL ตั้งแต่ต้นปี (Year to Date 15/11/2567) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.83% ชนะดัชนี SET Index ที่เพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% และยังดีกว่าดัชนีหุ้นใหญ่ SET50 ที่ปรับสูงขึ้น 5.28%

CPALL

สำหรับใจความสำคัญของบทความนี้ อยากจะพามาแกะกันว่าทำไมหุ้น CPALL ถึงกลับมาทำผลงานได้โดดเด่นในช่วงนี้ แถมยังมีความน่าสนใจอะไรที่นักลงทุนควรรู้ ทั้งในแง่ของ Upside อนาคต และปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง

1. CPALL ไตรมาส 3/67 กำไร 5,608 ล้านบาท พุ่ง 27% เซเว่นฯ แกร่งรอบทิศ

CPALL เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้รวม 241,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการเติบโตด้วยรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและศูนย์การค้า รวมถึงกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ตามการบริโภคภายในประเทศที่ยังมีการขยายตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายไตรมาส

นอกจากนี้ บริษัทยังได้อานิสงส์ของการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลยุทธ์ O2O เช่น 7-Delivery และ All Online ของแต่ละหน่วยธุรกิจยังคงเป็นปัจจัยเสริมในการเติบโตของรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับ 7-Eleven ถือว่ายังคงเป็น Key-Driver ของ CPALL เพราะการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม รวมถึงยอดขายจากช่องทางอื่นด้วย ในไตรมาส 3/2567 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเปิดร้านสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 199 สาขา ทำให้บริษัทมีจำนวนร้านค้ารวมทั้งประเทศทั้งสิ้น 15,053 สาขา

 

2. กำไรไตรมาส 3/67 ดีกว่าคาด ส่วนกำไรไตรมาส 4/67 ดีต่อเนื่อง

กำไรหลักของ CPALL ในไตรมาส 3/2567 มากกว่าตลาดคาด 8% (อ้างอิงจาก Bloomberg Consensus) เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 22.7% ทำให้กำไรหลักของงวด 9 เดือนอยู่ที่ 1.83 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรหลักปี 2567 ที่ 2.45 หมื่นล้านบาท ของบทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนกำไรหลักใน 9 เดือนแรกของปีในอดีตซึ่งอยู่ที่ 72% ของกำไรทั้งปี ทำให้มองว่า CPALL ยังมี Upside ต่อประมาณการปี 2567

ประมาณการว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2567 ของ CPALL จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หนุนโดยการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ายอดขายสาขาเดิมของ &-Eleven เติบโต 2-4% ในเดือนตุลาคม และ 1-3% สำหรับ CPAXT ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นไปพร้อมกัน อีกทั้งคาดผลของฤดูกาลจะหนุนผลกำไรให้ดีขึ้น

3. ราคาหุ้นยังคง Undervalue ถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า ราคาหุ้น CPALL ซื้อขายด้วย PER ปี 2568 เพียง 21.7 เท่า หรือราว -1.75S.D จากค่าเฉลี่ยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงให้คำแนะนำ “Outperform” คงราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 91 บาทต่อหุ้น

บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง มองคล้ายกันว่าชอบ CPALL เพราะมูลค่าหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ PER ปี 2568 อยู่ที่ 21 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 31.2 เท่า จึงน่าจะหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้น และชอบ CPALL มากที่สุดในกลุ่ม

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน