“ฟิทช์ เรทติ้งส์” อัพเครดิต “PTTGC” สะท้อนมุมมอง ทิศทาง “กำไร” ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น และค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนที่ปรับตัวลดลง
ในรายงานล่าสุด “ฟิทช์ เรทติ้งส์” บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้ประกาศปรับอันดับเครดิตของ “PTTGC” หรือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) เป็นแนวโน้มเครดิตมี “เสถียรภาพ” จากแนวโน้ม “ลบ”
- ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) เป็นแนวโน้มเครดิตมี “เสถียรภาพ” จากแนวโน้ม “ลบ”
- คงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ไว้ที่ “BBB” และ คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ที่ “AA(tha)”
- คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ที่ “F1+(tha)” และอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ ของบริษัทที่ “AA(tha)”
สรุปแล้วฟิทช์ได้ยกระดับแนวโน้มอันดับเครดิตของ PTTGC ให้ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองต่อทิศทางกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปรับลดลงของ D/E ต้นทุนทางการเงินที่ลด รวมไปถึงสภาพคล่องการเงินที่ดีขึ้น
ในรายงานระบุว่า หนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Net Leverage) ของ PTTGC จะปรับตัวลดลงตาม มาอยู่ระดับต่ำกว่า 3.5 เท่า ภายในปี 2568 เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะเชื่อว่าบริษัทมีมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยลดอัตราส่วนหนี้สิน ประกอบกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น และค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนที่ปรับตัวลดลง
แม้ว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอาจกลับมาช้ากว่าที่คาด แต่บริษัทได้ดำเนินการขยายเทอมการชำระเงินในการซื้อน้ำมันดิบกับบริษัทแม่ เพื่อลดความต้องการในการใช้เงินทุนหมุนเวียน และได้มีการขายทรัพย์สินในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักไปบ้างแล้ว โดยอยู่ในขั้นตอนการขายทรัพย์สินในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติม
อีกแง่หนึ่งก็คือกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ฟิทช์คาดว่า EBITDA จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 43,000 ล้านบาทในปี 2567 จากระดับที่ต่ำมากในปี 2566 ที่ทำได้ 27,000 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันน่าจะมีผลประกอบการที่ดี
สำหรับปี 2568 Fitch Ratings ประเมินว่า EBITDA ของ PTTGC จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากอุปสงค์และอุปทานในธุรกิจปิโตรเคมีที่มีความสมดุลมากขึ้น คาดว่าค่าการกลั่นจะยังคงอยู่ในระดับที่ดีที่ประมาณ 5.5-6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ ประเมินว่าค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนของบริษัทจะลดลง โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.0-2.3 หมื่นล้านบาทต่อปี ในปี 2567 และ 2568 เมื่อเปรียบเทียบกับ 20,000 ล้านบาทในปี 2566 หลังจากที่บริษัทเสร็จสิ้นการก่อสร้างโครงการ Olefins 2 Modification และเริ่มดำเนินการในปี 2566 เชื่อว่า PTTGC จะยังคงไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ใหม่ ๆ โดยเฉพาะในช่วงสภาวะตลาดยังคงอ่อนแออยู่
สำหรับการเข้าซื้อกิจการ Allnex สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาว ที่ต้องการรุกผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง และกระจายธุรกิจไปยังธุรกิจเคมีเกรดพิเศษ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเสถียรภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีแบบพื้นฐาน โดยเฉพาะในช่วงที่อุตสาหกรรมเป็นขาลง
โดยสัดส่วน EBITDA จากผลิตภัณฑ์ Performance Chemicals ของ PTTGC จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 22% ในปี 2567 และ 2568 จากระดับที่ต่ำกว่า 5% เท่ากับว่าสถานะทางธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้น
ดังนั้น การที่ PTTGC มีขนาดธุรกิจที่ใหญ่ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูง ส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่มากกว่า และอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับผู้ผลิตปิโตรเคมี และน้ำมันอื่น ๆ ในประเทศ
ประกอบกับความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนการผลิต เนื่องจากวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตโอเลฟินส์ คือ ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจัดหาได้จากภายในประเทศ แถมยังได้รับประโยชน์จากการที่มีสัญญาการจัดหาก๊าซธรรมชาติระยะยาวกับ ปตท. ซึ่งช่วยลดความผันผวนของส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์ กับวัตถุดิบลงได้
ฟิทช์จึงยกให้สถานะทางธุรกิจของ PTTGC แข็งแกร่งที่สุด เมื่อเทียบกับบริษัทในธุรกิจการกลั่นน้ำมั นและปิโตรเคมีในประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แผนเชิงรุก ‘GC’ เน้นโตในผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
- GC คว้า 6 รางวัลความเป็นเลิศแห่งเอเชีย สะท้อนการเป็นผู้นำและการดำเนินธุรกิจที่เป็นเลิศ
- GC แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ผู้จัดการใหญ่ เดินหน้าสร้างองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนระดับโลก
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg